“เอสซีจี” ผนึก “มัส บี” บริษัทร่วมทุนในกลุ่มไทยเบฟ และเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ เดินหน้ารุกชิงเค้กอีคอมเมิร์ซ ร่วมทุนใน BetterBe โดยถือหุ้นฝ่ายละ 50% รวมมูลค่ากว่า 3,900 ล้านบาท พร้อมดัน “NocNoc” ผู้ให้บริการทุกเรื่องออนไลน์มาร์เก็ตแพลตฟอร์มในประเทศไทยและอินโดนีเซีย ขึ้นเบอร์ 1 ในธุรกิจ Home and Living Destination Platform ในตลาดอาเซียน ภายในปี 2571 มั่นใจสิ้นปี 2566 ยอดขายเติบโต 2.5 เท่าจากปีก่อน หลังจากยอดขายสะสม 4 ปี กว่า 10,000 ล้านบาท
นายนิธิ ภัทรโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี เปิดเผยว่า บริษัท เบ็ตเตอร์บี มาร์เก็ตเพลส จำกัด หรือ BetterBe ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในเอสซีจี ที่ประกอบธุรกิจออนไลน์มาร์เก็ตแพลตฟอร์มในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ NocNoc และในประเทศอินโดนีเซียภายใต้ชื่อ Renos เป็นบริษัทที่มีศักยภาพสูง เติบโตต่อเนื่อง เข้าถึงตลาดรวมกว่า 300 ล้านคน อีกทั้งยังตอบรับกับเทรนด์การอยู่อาศัยที่ต้องการความสะดวกสบาย รวดเร็วมากขึ้น
การร่วมทุนใน BetterBe ระหว่างเอสซีจี กับ บริษัท มัส บี จำกัด (มัส บี) บริษัทร่วมทุนของกลุ่มบริษัทไทยเบฟเวอเรจ และบริษัทเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ครั้งนี้ โดยเอสซีจี ถือหุ้น 50% และมัส บี ถือหุ้น 50% ถือเป็นการผสานศักยภาพของเอสซีจี กับมัส บี ที่มีเครือข่ายระบบโลจิสติกส์ ทั้งการขนส่ง คลังสินค้า รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ ศูนย์การค้า และโรงแรมที่ครอบคลุมทั่วประเทศ จะทำให้ NocNoc แข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมคว้าโอกาสเติบโตในอนาคต จากฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นและการเปิดตลาดบ้านและที่อยู่อาศัย (Home and Living) ไปสู่วงกว้างมากขึ้น
นายโฆษิต สุขสิงห์ กรรมการผู้มีอำนาจของมัส บี และรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดกลุ่มดิจิทัลและเทคโนโลยี บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การที่มัส บี ได้เข้ามาร่วมทุนกับเอสซีจีครั้งนี้ เนื่องจากมองเห็นทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมออนไลน์มาร์เก็ตเพลสแพลตฟอร์ม ซึ่งมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยในปี 2566 ทางศูนย์วิจัยกสิกร ได้ประเมินว่ามูลค่าตลาด B2C E-Commerce น่าจะมีอัตราการขยายตัวในอัตรา 4-6% หรือคิดเป็นมูลค่าตลาดประมาณ 606,000-618,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นโอกาสทางการตลาดในการสร้างการเติบโตด้านยอดขายและรายได้ให้เพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ มัส บี ยังมองว่าการร่วมทุนใน BetterBe กับเอสซีจี มีศักยภาพและความแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในธุรกิจเกี่ยวกับการตกแต่งบ้านและการอยู่อาศัย ตลอดจนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ มีช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าเข้าถึงลูกค้าได้หลากหลาย รวมถึงระบบการจัดส่งสินค้าหรือโลจิสติกส์ที่สามารถกระจายสินค้าถึงมือผู้บริโภคได้โดยตรง และยังมี Home and Living Platform จัดจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับบ้านและการอยู่อาศัยที่มีความแข็งแกร่งอย่าง NocNoc ซึ่งจะเข้ามาเสริมโอกาสทางการตลาดและเพิ่มยอดขายให้สินค้าในกลุ่มบริษัทฯ ได้อีกมากด้วย
นางชลลักษณ์ มหาสุวีระชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบ็ตเตอร์บี มาร์เก็ตเพลส จำกัด หรือ NocNoc กล่าวว่า “NocNoc มุ่งสู่ Home and Living Destination Platform ที่ช่วยให้ทุกคนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยเป็นตัวกลางระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ที่เปิดกว้างให้ผู้ขาย แบรนด์ และพันธมิตรทุกรายสามารถนำเสนอสินค้าบนแพลตฟอร์มได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว ขณะที่ผู้บริโภคเข้าถึงตัวเลือกสินค้าและบริการในกลุ่มบ้านและที่อยู่อาศัย (Home and Living) หลากหลาย ครบวงจร ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
โดย NocNoc เร่งนำเทคโนโลยีมาพัฒนาประสบการณ์การซื้อสินค้า เช่น AI Personalization และ NocNoc GPT ซึ่งช่วยให้การต่อเติม ตกแต่งบ้านทั้งหลังเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น ตลอดจนสร้างพื้นที่แลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องบ้าน เพื่อให้ผู้บริโภคใกล้ชิดกับ NocNoc มากขึ้น เปรียบเสมือนเพื่อนรู้ใจคนแต่งบ้าน อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ขายบนแพลตฟอร์มเป็นที่รู้จักในวงกว้างและเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น
การร่วมทุนครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้ NocNoc เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นโอกาสของผู้ขาย แบรนด์ และพันธมิตรทุกรายบนแพลตฟอร์มที่จะเติบโตไปพร้อมกัน โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าขึ้นแท่นผู้นำตลาดเบอร์ 1 Home and Living Destination Platform ในตลาดอาเซียน ภายในปี 2571
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา NocNoc มียอดขายรวมบนแพลตฟอร์มกว่า 10,000 ล้านบาท ในช่วงระยะเวลา 4 ปีที่เปิดให้บริการ ปัจจุบันมีผู้เข้ามาใช้บริการเฉลี่ยมากกว่า 3 ล้านรายต่อเดือน ทั้งกลุ่มลูกค้า B2C และ B2B จากการร่วมทุนกันในครั้งนี้ รวมถึงกลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ เชื่อมั่นว่า NocNoc จะมียอดขายบนแพลตฟอร์มเติบโต 2.5 เท่าจากปีที่ผ่านมา