หุ้นไทยปิดร่วง -12.14 จุด โบรกฯชี้ นักลงทุนต่างชาติยังคงเทขายหุ้นไทยต่อเนื่อง จากปัจจัยลบในส่วนของการเมืองในประเทศโดยเฉพาะประเด็นความไม่ชัดเจนในการการจัดตั้งรัฐบาล แม้ว่า Sentiment เชิงบวกเริ่มดีขึ้น ขณะเดียวกันยังมีแรงขายหุ้นบิ๊กแคปเข้ามากดดันอีกด้วย มองแนวโน้มพรุ่งนี้คาดแกว่งไซด์เวย์ พร้อมให้แนวต้าน 1,540 จุด แนวรับ 1,515 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 1 มิ.ย. 2566 ปรับตัวลดลง -12.14 จุด หรือ -0.79% โดยปิดตลาดที่ 1,521.40 จุด มูลค่าการซื้อขาย 48,244.01 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ ดัชนีแกว่งตัวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,536.76 จุด ในทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,521.31 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 127 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 167 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 356 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -1,988.20 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +1,569.05 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +353.20 ล้านบาท บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +65.95 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,247.67 ล้านบาท ปิดที่ 98.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
2.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,532.05 ล้านบาท ปิดที่ 63.25 บาท ลดลง 0.50 บาท
3.MAKRO มูลค่าการซื้อขาย 1,519.65 ล้านบาท ปิดที่ 38.25 บาท ลดลง 2.25 บาท
4.GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,510.37 ล้านบาท ปิดที่ 47.00 บาท ลดลง 1.75 บาท
5.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,248.83 ล้านบาท ปิดที่ 129.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่227.00 บาทเพิ่มขึ้น 4.00 บาทหรือ 1.79%
2.SCC ปิดที่323.00บาทเพิ่มขึ้น 4.00 บาทหรือ 1.25%
3.MEGA ปิดที่40.25 บาทเพิ่มขึ้น 1.25 บาทหรือ 3.21%
4.RBF ปิดที่10.80 บาทเพิ่มขึ้น 0.70 บาทหรือ 6.93%
5.AMATAปิดที่ 22.70บาทเพิ่มขึ้น 0.60 บาทหรือ 2.71 %
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.EGCO ปิดที่ 139.50 บาท ลดลง 5.00 บาทหรือ 3.46%
2.EA ปิดที่ 60.75 บาท ลดลง4.25 บาทหรือ 6.54%
3.GPSC ปิดที่ 56.00 บาท ลดลง2.50 บาทหรือ4.27%
4.BGRIM ปิดที่ 35.75 บาท ลดลง1.75 บาทหรือ 4.67%
5.TIDLOR ปิดที่ 26.50 บาท ลดลง1.25 บาทหรือ 4.50%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,043.83 จุด ลดลง -16.04 จุด หรือ -0.78% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 917.28 จุด ลดลง -7.37 จุด หรือ -0.80% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 483.78 จุด ลดลง -5.97 จุด หรือ -1.22%
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลดลง จากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ที่กดดันดัชนี ซึ่งคาดว่านักลงทุนต่างชาติยังคงขายต่อเนื่อง จากความไม่แน่นอนของปัจจัยการเมืองในประเทศที่ยังไม่ชัดเจน แม้ว่า Sentiment จากภายนอกจะเริ่มดีขึ้นก็ตาม หลังสหรัฐโหวตผ่านขยายเพดานหนี้สหรัฐ
ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน ซึ่งยังคงไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาส่งผลต่อตลาดหุ้น หลังจากรับรู้ปัจจัยต่างๆไปมากแล้ว และยังรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ รวมถึงการประชุมธนาคารกลางสหรัฐในกลางเดือน มิ.ย.นี้
"แนวโน้มตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้คาดว่าแกว่งตัวไซด์เวย์ ซึ่งยังคงต้องติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศว่าความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาลจะเป็นอย่างไร ส่วนปัจจัยต่างประเทศคืนนี้มีรายงานตัวเลขภาคแรงงานของสหรัฐ โดยให้แนวต้าน 1,540 จุด แนวรับ 1,515 จุด" นายชัยพร กล่าว