3 โบรกเกอร์ประเมินหุ้นไทยเดือน มิ.ย.66 เคลื่อนไหวในกรอบ 1,500-1,575 จุด หลังยังไร้ปัจจัยหนุน ทั้งปัจจัยในประเทศเรื่องการเมืองที่ยังขาดความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล ที่อาจต้องใช้ระยะเวลาอีกพอสมควร ส่วนต่างประเทศยังรอลุ้นเฟดชะลอการขึ้นดอกเบี้ย แม้สหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ แต่ฟันด์โฟลว์ต่างชาติยังมีแนวโน้มไหลออก แนะเลือกหุ้น Defensive หรือหุ้นรับอานิสงส์เปิดเมือง เชียร์หุ้นเด่น มิ.ย. MAKRO, BJC, MINT, SPA, WHA, AMATA และ BGRIM
ทิสโก้มองภาพรวมหุ้น มิ.ย. ยังไม่ดี แนะเลือกหุ้น Defensive
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นเดือน มิ.ย. ยังไม่ค่อยดี เนื่องจากมีปัจจัยลบกดดันมากมาย โดยเฉพาะปัจจัยการเมืองในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้าไม่ชัดเจน ต้องรอจนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศแม้ประเด็นเรื่องการขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ ได้ข้อสรุป แต่มีปัจจัยกังวลเรื่องสภาพคล่องในระบบ หลังรัฐบาลสหรัฐฯ กลับมาออกขายพันธบัตรได้จะเป็นการดูดซับสภาพคล่องออกจากตลาด และทำให้บอนด์ยิลด์กลับมาเพิ่มขึ้นอีกด้วย
"แนะนำติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ตลาดเริ่มปรับมุมมองว่าเฟดมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องอีก 0.25% ในการประชุมเดือน มิ.ย.นี้ จากเดิมที่คาดว่าจะหยุดขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ตลาดกลับมากังวลบอนด์ยิลด์ปรับตัวต่อเนื่องอีกครั้ง" นายอภิชาติ กล่าว
ทั้งนี้ ประเมินว่าตลาดหุ้นเอเชียในเดือน มิ.ย. จะไม่ perform โดยให้แนวต้าน 1,570-1,575 จุด แนวรับ 1,500 จุด ส่วนกลยุทธ์การลงทุนเดือน มิ.ย.แนะเลือกหุ้น Defensive
ยูโอบีมองตลาด มิ.ย. ทรงตัว ขาดปัจจัยบวกหนุน
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและนักกลยุทธ์ฝ่ายวิเคราะห์หลัทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือน มิ.ย.นี้ คาดว่าดัชนีหุ้นไทย (SET INDEX) น่าจะเคลื่อนไหวในลักษณะทรงตัว เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกและลบที่เข้ามามีอิทธิพลต่อตลาดชัดเจน โดยปัจจัยภายในประเทศช่วงนี้ยังไม่มีอะไรที่โดดเด่น มีเพียงปัจจัยทางการเมืองที่ยังไม่มีความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลาอีกพอสมควร
ส่วนของปัจจัยภายนอกประเทศ คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) น่าจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไว้ และการบรรลุข้อตกลงการเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐฯ น่าจะคลี่คลายลงได้
ขณะที่ทิศทางฟันด์โฟลว์ต่างชาติเชื่อว่าจะยังชะลอการเข้าซื้อ เนื่องจากแนวโน้มค่าเงินบาทที่ยังอ่อนค่า ซึ่งทำให้ SET INDEX อาจยังไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีไว้ที่ระดับ 1,520-1,570 จุด สำหรับกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ Selective Buy กลุ่มหุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากการเปิดเมือง โดยเฉพาะการฟื้นตัวของภาคการบริโภคภายในประเทศและการท่องเที่ยว เช่น กลุ่มค้าปลีก ท่องเที่ยว นิคมอุตสาหกรรม และโรงไฟฟ้า ส่วนหุ้นที่คาดว่าจะปรับตัวเด่นในช่วงเดือน มิ.ย.นี้ ได้แก่ MAKRO, BJC, MINT, SPA, WHA, AMATA และ BGRIM
ฟินันเซีย ไซรัสแนะทยอยสะสมหุ้นแถว 1,500 จุด
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเดือน มิ.ย.เป็นลักษณะแกว่งตัวออกด้านข้าง รอดูความชัดเจนการจัดตั้งรัฐบาล เพราะปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นปรับลงเป็นปัจจัยในประเทศเป็นหลัก ส่วนปัจจัยต่างประเทศเรื่องเพดานหนี้สหรัฐฯ คลี่คลายแล้ว มองแนวรับ 1,500 จุด แต่หากการจัดตั้งรัฐบาลชัดเจนคาดเห็นดัชนี 1,555-1,560 จุด
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนเดือน มิ.ย. แนะนำเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกและได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐบาลใหม่จำกัด เช่น กลุ่มโรงพยาบาล ท่องเที่ยว ที่ราคาปรับลงค่อนข้างแรง แต่พื้นฐานยังดีอยู่ รวมทั้งรายได้ไม่มีผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอ แนะทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานเพิ่มที่ระดับ 1,500 จุด
