xs
xsm
sm
md
lg

แรงเทขายหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า-สื่อสาร ฉุดหุ้นไทยปิดตลาดร่วง ปิด -19.97 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดตลาดร่วง -19.97 จุด นักวิเคราะห์ฯ ชี้ตลาดกังวลนโยบายพรรคก้าวไกลปรับลดกิจการพลังงานโดยเฉพาะโรงไฟฟ้า จึงเกิดแรงเทขายหุ้นที่เกี่ยวข้องกับโรงไฟฟ้าออกมา อีกทั้งยังมีแรงเทขายหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเมืองเข้ามาสมทบด้วย ประเมินภาพการลงทุนวันพรุ่งนี้ลุ้นฟื้นกลับขึ้นมาหลังวันนี้ปรับตัวลดลงร่วงแรงมองแนวรับที่ 1,530 จุด และแนวต้านที่ 1,555 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 15 พ.ค. 2566 ปรับตัวลดลง -19.97 จุด หรือ -1.28% มาอยู่ที่ 1,541.38 จุด มูลค่าการซื้อขาย 68,382.81 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ ดัชนีปรับตัวลดลงและแกว่งตัวเคลื่อนไหวอยู่ในแนวลบตลอดทั้งวัน โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,570.62 จุด ในทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,536.82 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 116 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 125 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 390 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +1,403.43 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -691.15 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -231.54 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -480.74 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.GULF มูลค่าการซื้อขาย 3,641.33 ล้านบาท ปิดที่ 48.00 บาท ลดลง 4.50 บาท
2.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,951.66 ล้านบาท ปิดที่ 64.75 บาท ลดลง 1.75 บาท
3.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,879.04 ล้านบาท ปิดที่ 211.00 บาท ลดลง 10.00 บาท
4.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,814.35 ล้านบาท ปิดที่ 137.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
5.AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,755.26 ล้านบาท ปิดที่ 73.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่81.75 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาทหรือ 5.83%
2. BH ปิดที่249.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาทหรือ 1.22%
3.NEX ปิดที่12.80 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาทหรือ 24.27%
4.TISCO ปิดที่ 93.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาทหรือ 1.63%
5.KBANKปิดที่ 137.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาทหรือ 1.11%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.CBG ปิดที่ 70.50บาท ลดลง 6.50 บาท หรือ 8.44%
2.EGCO ปิดที่ 146.00 บาท ลดลง 6.00 บาท หรือ 3.95%
3.INTUCH ปิดที่ 72.50 บาท ลดลง 5.25 บาท หรือ 6.75%%
4.ULF ปิดที่ 48.00 บาท ลดลง 4.50 บาท หรือ 8.57%
5.GPSC ปิดที่59.00 บาท ลดลง 3.75 บาท หรือ 5.98

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,081.49 จุด ลดลง -26.88 จุด หรือ -1.27% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 935.87 จุด ลดลง -11.85 จุด หรือ -1.25% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 492.90 จุด ลดลง -8.67 จุด หรือ -1.73%

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงแรง รับแรงกดดันขายหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า ทั้ง GULF, GPSC, BGRIM เนื่องจากพรรคก้าวไกล ซึ่งชนะการเลือกตั้ง มีนโยบายหาเสียงชัดเจนจะลดค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยเฉพาะ “ค่าไฟแฟร์” ถูกและเป็นธรรมกับประชาชน ทำให้ตลาดกังวลว่าอาจเห็นการปรับลดค่า Ft ซึ่งจะกระทบต่อผลประกอบการกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่

พร้อมกันนั้น ยังมีแรงขายในหุ้นกลุ่มสื่อสารและหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเมืองเพื่อทำกำไร หลังจากราคาไต่ขึ้นไปมาแล้วในช่วงก่อนการเลือกตั้ง รวมถึงขายหุ้นที่ผลประกอบการไตรมาสแรกออกมาไม่ดีสร้างความผิดหวัง อย่าง CBG และกลุ่ม JMART

ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดตลาดฯ มีโอกาสรีบาวด์หลังจากวันนี้ลงไปลึก ให้แนวรับไว้ที่ 1,530 จุด และแนวต้าน 1,555 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น