หุ้นไทยปิดตลาดร่วง -6.05 จุด โบรกฯ เผยนักลงทุนแบ่งเป็นสองฟาก ทั้งที่ขายลดความเสี่ยงก่อน และซื้อเข้าเก็บเก็งกำไรหุ้นรับอานิสงส์หลังเลือกตั้งอิงสถิติส่วนใหญ่หลังเลือกตั้งจะเป็นบวก ประเมินทิศทางการลงทุนสัปดาห์หน้า แนะจับตาผลการเลือกตั้ง มีโอกาสปรับขึ้นแต่ไม่แรงมาก มองแนวรับสำคัญไว้ที่ 1,550 จุด หากหลุดให้ถัดไปที่ 1,540 จุด และแนวต้านที่ 1,570-1,575 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 12 พ.ค.2566 ปรับตัวลดลง -6.05 จุด หรือ -0.39% โดยปิดตลาดที่ 1,561.35 จุด มูลค่าการซื้อขาย 57,109.23 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,567.81 จุด ในทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,548.03 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 190 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 142 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 302 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -2,257.54 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +1,148.52 ล้านบาท บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +433.08 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +675.95 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,379.88 ล้านบาท ปิดที่ 135.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
2.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,141.25 ล้านบาท ปิดที่ 66.50 บาท ลดลง 0.75 บาท
3.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,717.36 ล้านบาท ปิดที่ 73.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
4.MAKRO มูลค่าการซื้อขาย 1,627.35 ล้านบาท ปิดที่ 40.25 บาท ลดลง 0.75 บาท
5.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,581.30 ล้านบาท ปิดที่ 8.15 บาท ลดลง 0.15 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 246.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท หรือ 2.07%
2.ADVANC ปิดที่ 221.00บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 0.91%
3.SCC ปิดที่ 336.00บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 0.60%
4.JMT ปิดที่42.75บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 3.64%
5.KBANK ปิดที่ 135.50บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 0.74%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEP ปิดที่ 146.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 1.35%
2.SCB ปิดที่105.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 1.40%
3.PTTGC ปิดที่40.25 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 2.42%
4.GPSC ปิดที่ 62.75 บาท ลดลง 1.00บาท หรือ 1.57%
5.EGCO ปิดที่152.00บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.65%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,108.37 จุด ลดลง -6.91 จุด หรือ -0.33% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 947.72 จุด ลดลง -2.85 จุด หรือ -0.30% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 501.57 จุด ลดลง -0.94 จุด หรือ -0.19%
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งผันผวนจากมุมมองที่ต่างกันในผลการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค.66 นี้ บางฝั่งขายลดความเสี่ยงก่อน ขณะที่อีกฝั่งเชื่อตามสถิติหลังเลือกตั้งตลาดหุ้นน่าจะเป็นบวก มีเพียงการเลือกตั้งปี 62 ที่คะแนนเสียงก้ำกึ่งทำให้ตลาดหุ้นไม่ขึ้นไปตอบรับทันที ดังนั้น มองว่าหากผลการเลือกตั้งออกมาชัดเจนว่าพรรคไหนได้คะแนนเสียงมากพอจะจัดตั้งรัฐบาลจะเป็นสัญญาณที่ดีต่อตลาด
ส่วนตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ไม่ค่อยดี เพราะกังวลเศรษฐกิจจีนหลังจากเปิดเผยตัวเลขการค้าและการขยายสินเชื่ออยู่ในระดับต่ำ เงินเฟ้อลดลงเร็ว รวมถึงกังวลการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ล่าสุดเลื่อนการเจรจาวันนี้ออกไปและเหลือเวลาไม่มากที่ทำเนียบขาวกับสภาคองเกรสจะเจรจากัน
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในสัปดาห์หน้าขึ้นอยู่ผลการเลือกตั้ง แต่มองว่าโอกาสที่ตลาดจะปรับขึ้นแรงมากคงไม่ง่าย เพราะทิศทางภาพรวมแกว่งตัวลงให้แนวรับสำคัญไว้ที่ 1,550 จุด หากหลุดให้ถัดไปที่ 1,540 จุด แนวต้านที่ 1,570-1,575 จุด
