ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง -2.16 จุด โบรกฯ เผยหุ้นไทยพักตัว หลังรับปัจจัยบวกไปก่อนหน้านี้แล้ว อีกทั้งนักลงทุนยังกลับมากังวลท่าทีและความไม่แน่นอนของเฟดในการขึ้นดอกเบี้ย เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐแม้จะออกมาดี แต่ยังอยู่ในระดับสูง มองกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้คาดยังคงไซด์เวย์ พร้อมประเมินแนวรับที่ 1,550 จุด และแนวต้านที่ 1,575 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 ปรับตัวลดลง -2.16 จุด หรือ -0.14% โดยปิดตลาดที่ 1,567.40 จุด มูลค่าการซื้อขาย 52,780.29 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,576.59 จุด ในทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,564.78 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 198 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 152 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 283 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +2,904.24 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +79.22 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -1,600.64ล้านบาท และ นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า-1,382.81 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,806.48 ล้านบาท ปิดที่ 134.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
2.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,725.77 ล้านบาท ปิดที่ 67.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
3.MAKRO มูลค่าการซื้อขาย 1,603.36 ล้านบาท ปิดที่ 41.00 บาท เพื่มขึ้น 1.00 บาท
4.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,598.78 ล้านบาท ปิดที่ 8.30 บาท ลดลง 0.30 บาท
5.OR มูลค่าการซื้อขาย 1,551.06 ล้านบาท ปิดที่ 22.80 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.CBG ปิดที่ 77.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาทหรือ 3.32%
2.CPALL ปิดที่ 67.25บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาทหรือ 2.28%
3.OSP ปิดที่31.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาทหรือ 4.17%
4.CRC ปิดที่ 46.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาทหรือ 2.20%
5.GLOBAL ปิดที่ 18.60บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาทหรือ4.49%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 241.00บาท ลดลง 3.00 บาทหรือ 1.23%
2.BCH ปิดที่18.80บาท ลดลง 2.00บาทหรือ 9.62%
3.EGCO ปิดที่153.00บาท ลดลง 1.50บาทหรือ 0.97%
4.STA ปิดที่ 18.80 บาท ลดลง 1.40 บาทหรือ 6.93%
5.PTTGC ปิดที่ 41.25 บาท ลดลง 1.25 บาทหรือ 2.94%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,115.28 จุด ลดลง -5.43 จุด หรือ -0.26% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 950.57 จุด ลดลง -1.12 จุด หรือ -0.12% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 502.51 จุด ลดลง -1.99 จุด หรือ -0.39%
นายชาญชัย พันทาธนากิจ รองผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวไซด์เวย์ในแดนลบ ซึ่งเป็นการพักตัวหลังจากตอบรับปัจจัยบวกไปมากในช่วงที่ผ่านมา แม้เมื่อคืนนี้ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐจะออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด แต่ยังถือว่าอยู่ในระดับที่สูง ทำให้การประชุมครั้งหน้าตลาดยังมีความกังวลว่าธนาคารสหรัฐยังมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยได้
ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่สนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ แต่ตลาดหุ้นไทยยังถือว่าปรับตัวลงไม่มาก โดยที่มีแรงซื้อเข้ามาในกหุ้นกลุ่มแบงก์และค้าปลีกหนุน ทำให้ปรับตัวลงเล็กน้อย
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์ โดยที่ปัจจัยที่ต้องติดตามในคืนนี้เป็นการรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)ของสหรัฐเดือนเม.ย.ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ประกอบกับยังคงต้องติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง โดยประเมินแนวรับที่ 1,550 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,575 จุด