หุ้นไทยปิดตลาดร่วง -0.49 จุด โบรกฯชี้ตลาดรอดูปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและ PCE ของสหรัฐ จึงแกว่งตัวในกรอบแคบๆ โดยยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้าหนุนหลังประกาศงบหุ้นกลุ่มธนาคารไปเรียบร้อยแล้ว แนะนักลงทุนจับตาตัวเลขงบผลประกอบการหุ้นกลุ่มอื่นๆ ประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวต้านที่ 1,570 จุด และแนวรับที่ 1,550 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 24 เมษายน 2566 ปรับตัวลดลง -0.49 จุด หรือ -0.03% โดยปิดตลาดที่ 1,557.87 จุด มูลค่าการซื้อขาย 35,491.29 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นไทยในวันนี้ ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,561.55 จุด ในทางกลับกันปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,553.15 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 430 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 498 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 882 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +727.67 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +78.06 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -681.55 ล้านบาท และ บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -124.17 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,818.54 ล้านบาท ปิดที่ 18.00 บาท ลดลง 0.20 บาท
2.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,555.20 ล้านบาท ปิดที่ 127.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
3.SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,312.35 ล้านบาท ปิดที่ 102.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
4.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,287.40 ล้านบาท ปิดที่ 906.00 บาท เพิ่มขึ้น 16.00 บาท
5.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,206.09 ล้านบาท ปิดที่ 208.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่906.00 บาท เพิ่มขึ้น 16.00 บาทหรือ 1.80%
2.PTTEP ปิดที่155.50บาท เพิ่มขึ้น 1.50บาทหรือ 0.97%
3.JMT ปิดที่ 40.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาทหรือ 3.18%
4.SCC ปิดที่ 305.00บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาทหรือ 0.33%
5.OSP ปิดที่ 28.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาทหรือ 1.82 %
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 236.00 บาท ลดลง 4.00 บาท หรือ 1.67%
2.CBG ปิดที่ 74.00บาท ลดลง 2.25บาท หรือ2.95%
3.TISCO (XD) ปิดที่ 90.25บาท ลดลง 1.50บาท หรือ 1.63%
4.BBL (XD)ปิดที่ 158.00บาท ลดลง 1.50บาท หรือ 0.94%
5.HANA ปิดที่ 42.50 บาท ลดลง 1.25 บาทหรือ 2.86%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,100.95 จุด เพิ่มขึ้น 0.04 จุด หรือ 0.00% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 939.38 จุด เพิ่มขึ้น 0.88 จุด หรือ 0.09% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 517.85 จุด ลดลง -1.39 จุด หรือ -0.27%
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งในกรอบแคบๆ ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน หลังนักลงทุนรับข่าวผลประกอบการไตรมาส 1/66 ของกลุ่มแบงก์ไปแล้ว จึงรอติดตามผลประกอบการของบริษัทในกลุ่มอื่น ๆ ที่จะทยอยออกมา เบื้องต้นเมื่องบแบงก์ส่วนใหญ่ออกมาดี ก็คาดว่ากลุ่มค้าปลีกและ Domestic Play ก็น่าจะออกมาดีด้วยเช่นกัน
ส่วนปัจจัยต่างประเทศ นักลงทุนน่าจะจับตาตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในคืนพรุ่งนี้ และตัวเลขเงินเฟ้อ PCE สหรัฐในวันศุกร์นี้ ซึ่งตลาดคาดว่าจะออกมาในระดับต่ำลง หรืออยู่ที่ 4.5% ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดตลาดจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบต่อไป โดยให้กรอบแนวต้าน 1,570 จุด และแนวรับ 1,550 จุด