หุ้นไทยปิดตลาดร่วง -4.58 จุด โบรกฯ ชี้ เสถียรภาพการจัดตั้งรัฐบาลไม่นิ่งฉุดภาพรวมการลงทุนลง อีกทั้งปัจจัยต่างประเทศในส่วนการเจรจาขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่ยังไม่มีความชัดเจน กระทบภาคการเงินการคลัง ประเมินกรอบการลงทุนสัปดาห์หน้าดัชนีแกว่งระดับ 1,520-1,545 จุด แนะนักลงทุนเกาะติดการเมืองภายในประเทศ การเจรจาขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯ และประชุม กนง.
หุ้นไทยปิดตลาดปรับตัวลดลง -4.58 จุด หรือ -0.30% โดยปิดตลาดที่ 1,530.84 จุด มูลค่าการซื้อขาย 38,787.30 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ดัชนีปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดทำการซื้อขายในภาคเช้า และเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ อยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,536.08 จุด ในทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,527.59 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 208 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 169 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 266 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -3,567.16 ล้านบาท และบัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -11.80 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +2,290.74 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +1,288.22 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,127.19 ล้านบาท ปิดที่ 143.00 บาท ลดลง 5.50 บาท
2.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,044.14 ล้านบาท ปิดที่ 93.25 บาท ลดลง 0.75 บาท
3.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,406.96 ล้านบาท ปิดที่ 63.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
4.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,398.86 ล้านบาท ปิดที่ 132.50 บาท ลดลง 2.00 บาท
5.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,197.84 ล้านบาท ปิดที่ 70.00 บาท ลดลง 0.25 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCC ปิดที่332.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 0.61%
2.TIDLOR ปิดที่27.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 2.80%
3.BLA ปิดที่26.50 บาท เพิ่มขึ้น0.75 บาท หรือ 2.91%
4.AP ปิดที่11.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 4.55%
5.TQM ปิดที่28.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 1.77%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่229.00บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 1.29%
2.KBANK ปิดที่132.50บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 1.49%
3.JMART ปิดที่ 19.10บาท ลดลง 1.60 บาท หรือ 7.73%
4.JMT ปิดที่40.50บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 3.57%
5.DELTA ปิดที่ 93.25บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 0.80%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,058.31 จุด ลดลง -8.86 จุด หรือ -0.43% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 924.72 จุด ลดลง -4.16 จุด หรือ -0.45% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 484.38 จุด ลดลง -0.57 จุด หรือ -0.12%
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนียังวนอยู่ในกรอบเดิมๆ เพราะไม่เห็นความคืบหน้า โดยปัจจัยที่ให้น้ำหนักต่อตลาดคือเรื่องการเมืองในประเทศ การจัดตั้งรัฐบาล โดยกว่าจะเปิดสภาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรียังต้องใช้เวลา ระหว่างนี้มีวิวาทะออกมา ตลาดก็สวิงตาม แต่ไม่เห็นความคืบหน้าเชิงปฏิบัติการ โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะรับรอง ส.ส. 13 ก.ค. หลังจากนั้นภายใน 15 วัน เปิดประชุมสภาโหวตเลือกนายกฯ ซึ่งคาดว่าน่าจะประชุมสภาในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน ก.ค. โดยระหว่างนี้มีเพียงแต่กระแส ตลาดผันผวน วิ่งแคบๆ ในกรอบ 1,520-1,545 จุด
ส่วนเรื่องการเจรจาขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ ก็ต้องติดตาม เพราะหากมีการผิดนัดชำระหนี้ของประเทศที่มีเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดในโลก อย่างไรก็ดี สัปดาห์หน้าน่าจะเห็นความชัดเจน
"ทิศทางตลาดหุ้นสัปดาห์หน้าประเมินว่าภาพดัชนียังคงแกว่งไซด์เวย์ เพราะไม่มีปัจจัยใหม่ โดยประเมินกรอบแนวรับที่ 1,520 จุด และแนวต้านที่ 1,545 จุด โดยนักลงทุนยังต้องติดตามการเมืองและการเจรจาขยายเพดานหนี้ และประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ด้วย" นายเทิดศักดิ์ กล่าว