xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยพลิกปิด +5.60 จุด เหตุเก็ง กนง.ขึ้นดอกเบี้ย แรงซื้อหุ้นแบงก์เข้าหนุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดพลิก +5.60 จุด โบรกฯ ชี้หุ้นไทยแกว่งผันผวนแกว่งลบในภาคเช้า ก่อนพลิกกลับมาบวกในท้ายช่วงบ่ายก่อนปิดตลาด รับข่าว กนง.ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า อีกทั้งยังมีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มธนาคารเข้าหนุน ประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้ มองแนวต้านที่ 1,550 จุด และแนวรับที่ 1,520 จุด แนะจับตาท่าที ส.ว.โหวตนายกฯ

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 23 พ.ค.2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +5.60 จุด หรือ +0.37% โดยปิดตลาดที่ 1,534.84 จุด มูลค่าการซื้อขาย 49,772.13 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีแกว่งตัวผันผวนจากภาคเช้าที่เคลื่อนไหวแดนลบและพลิกกลับมาเป็นบวกในช่วงท้ายของภาคบ่าย โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,536.59 จุด ในทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,518.38 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 396 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 138 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 108 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +4,305.42 ล้านบาท และบัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +94.83 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -3,852.84 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -547.41 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 3,151.18 ล้านบาท ปิดที่ 87.00 บาท ลดลง 5.25 บาท
2.AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,693.89 ล้านบาท ปิดที่ 70.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
3.KTB มูลค่าการซื้อขาย 2,220.29 ล้านบาท ปิดที่ 19.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท
4.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,991.60 ล้านบาท ปิดที่ 134.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
5.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,808.55 ล้านบาท ปิดที่ 62.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SAWAD ปิดที่ 54.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 2.83%
2.KBANK ปิดที่134.50บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 1.13%
3.PTTEP ปิดที่148.50บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 1.02%
4.BBL ปิดที่161.00บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 0.94%
5.FORTH ปิดที่ 31.75บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 3.25%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่ 87.00 บาท ลดลง 5.25 บาท หรือ 5.69%
2.AOT ปิดที่ 70.50บาท ลดลง 1.50บาท หรือ 2.08%
3.KTC ปิดที่55.25บาท ลดลง 0.50บาท หรือ 0.90%
4.CK ปิดที่19.80บาท ลดลง 0.30บาท หรือ 1.49%
5.EA ปิดที่66.00บาท ลดลง 0.25บาท หรือ 0.38%

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,068.92 จุด เพิ่มขึ้น 2.99 จุด หรือ 0.14% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 929.43 จุด ลดลง -0.13 จุด หรือ -0.01% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 484.34 จุด เพิ่มขึ้น 7.51 จุด หรือ 1.57%

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งผันผวน หลังจากช่วงเช้าที่ปรับตัวลง และช่วงบ่ายสามารถรีบาวนด์กลับมาเป็นบวกได้ โดยมีแรงซื้อกลุ่มแบงก์ช่วยหนุนดัชนี หลังจากวานนี้ปรับตัวลงไปค่อนข้างมาก และเข้ามาเก็งผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในสัปดาห์หน้าจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% แต่ยังมีแรงขาย DELTA กดดันดัชนีหลังจากขึ้นมาแรง

ขณะที่ปัจจัยทางการเมืองในประเทศ แนวโน้มจัดตั้งรัฐบาลมีความคืบหน้ามากขึ้น หลังจากพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมีท่าทีประนีประนอมในประเด็นที่ ส.ว.กังวล ซึ่งเห็นความชัดเจนจากการแถลง MOU ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลปัจจัยการเมืองลงบ้าง ส่วนปัจจัยภายนอก การเจรจาขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ ยังคงต้องรอความชัดเจน และตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน

"แนวโน้มพรุ่งนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์ไร้ปัจจัยใหม่ ประเด็นหลักยังคงอยู่ที่การเมืองในประเทศ ซึ่งนักลงทุนต้องจับตาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะท่าที ส.ว. ว่าจะโหวตให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นอกจากนี้ ยังมีประเด็นการรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือน พ.ค.ของสหรัฐฯ ที่ยังต้องติดตาม โดยประเมินแนวต้านที่ 1,550 จุด และแนวรับที่ 1,520 จุด"


กำลังโหลดความคิดเห็น