xs
xsm
sm
md
lg

กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 33.50-34.20 ผันผวนตามสูตรจัดตั้งรัฐบาล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 33.50-34.20 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 33.97 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 33.58-34.02 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 3 เดือน โดยเงินดอลลาร์แข็งค่าเทียบทุกสกุลเงินหลักในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะตลาดกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ส่วนการคาดการณ์ที่ว่าสหรัฐฯ จะยุติการขึ้นดอกเบี้ยได้ถูกสะท้อนไปมากพอสมควรแล้ว ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) เดือน เม.ย.ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่า 5% เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมอาหารสดและพลังงานเพิ่มขึ้น 5.5% ชะลอลงจาก 5.6% ในเดือน มี.ค. ส่วนอัตราเงินเฟ้อในภาคบริการหลักที่ไม่รวมที่อยู่อาศัย (Super Core CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดสำคัญสำหรับประธานเฟดลดลงจากเดือนก่อนหน้าเช่นกัน โดยสัญญาล่วงหน้าดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ บ่งชี้โอกาสสูงกว่า 80% ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะคงดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย. อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อยังห่างไกลจากเป้าหมาย 2% ของเฟด และเฟดส่งสัญญาณว่าไม่มีความจำเป็นต้องรีบผ่อนคลายนโยบายซึ่งขัดแย้งกับมุมมองของตลาดที่ว่าเฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยลงในเดือน ก.ย. ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิ 4,673 ล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตรมากถึง 36,853 ล้านบาท

สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี ระบุว่า นักลงทุนจะติดตามยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ และข้อมูลเศรษฐกิจจีน ความคืบหน้าประเด็นการเพิ่มเพดานหนี้ซึ่งเราคาดว่าทางการสหรัฐฯ อาจแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการขยายเวลาออกไปราว 3-4 เดือน รวมถึงสุนทรพจน์ประธานเฟดช่วงท้ายสัปดาห์ ในเวลาเดียวกัน แรงส่งของการเติบโตทางเศรษฐกิจนอกสหรัฐฯ กำลังมีสัญญาณแผ่วลง สะท้อนจากการลดลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรม เช่น ทองแดง อนึ่ง ในภาวะที่ตลาดตอบรับแนวโน้มการคงดอกเบี้ยของเฟดไปค่อนข้างเต็มเหนี่ยวแล้ว เรามองว่าแรงขายดอลลาร์จากระดับปัจจุบันอาจเป็นไปอย่างจำกัดจนกว่าข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหม่ของสหรัฐฯ จะบ่งชี้ถึงการชะลอตัวที่รุนแรงมากขึ้น

สำหรับปัจจัยในประเทศ จีดีพีไตรมาส 1/66 เติบโต 2.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ โดยสภาพัฒน์ยังคงประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัว 2.7-3.7% ขณะที่เรามองว่าความชัดเจนของผลการเลือกตั้งเป็น Sentiment เชิงบวกช่วงสั้นต่อค่าเงินบาทและกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย อย่างไรก็ดี สูตรการจัดตั้งรัฐบาลผสมยังมีความไม่แน่นอนสูงและอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและเพิ่มความผันผวนให้ตลาด
กำลังโหลดความคิดเห็น