ศาลสูงสุดจีนไฟเขียวใช้คริปโตชำระหนี้ตามกฎหมาย

ศาลประชาชนสูงสุดกลายเป็นหน่วยงานตุลาการแห่งแรกในจีนที่อนุญาตให้ใช้สินทรัพย์เสมือนชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย บ่งชี้การเปลี่ยนแปลงจุดยืนครั้งสำคัญเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิตอล แม้ปักกิ่งยังคงแบนการทำธุรกรรมคริปโตอย่างเข้มงวดก็ตาม

ในการประชุมว่าด้วยการทดลองทางการเงินเมื่อต้นปี ศาลประชาชนสูงสุดระบุว่า คริปโตมีคุณสมบัติเดียวกับทรัพย์สินจริง และอนุญาตให้ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย โดยขึ้นอยู่กับข้อตกลงร่วมกันของฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

การตัดสินใจนี้แสดงถึงแนวโน้มเชิงรุกเกี่ยวกับศักยภาพของสกุลเงินดิจิตอลในรูปการชำระเงินที่ถูกต้องตามกฎหมายในบริบทของภาระหน้าที่ทางการเงิน

กระนั้น เพื่อให้มั่นใจในทางออกที่เป็นธรรมกรณีที่ฝ่ายหนึ่งตกลงจ่ายหนี้ด้วยคริปโต แต่ฝ่ายผู้รับเผชิญข้อจำกัดในการใช้สินทรัพย์ดิจิตอล ศาลสูงสุดจึงเสนอแนวทางในการพิจารณาค่าชดเชยโดยอิงกับมูลค่าจริงของทรัพย์สินหรือบริการที่ผู้รับได้รับ ณ เวลาที่ทำสัญญา

ศาลสูงสุดยังเพิ่มเติมว่า ศาลจะไม่ยอมรับคำร้องเรียนจากผู้ใช้หากเป็นการเทรดคริปโตหลังวันที่ 4 กันยายน 2019 ซึ่งเป็นวันที่ทางการจีนสั่งแบนการระดมทุนด้วยการเสนอขายดิจิตอลโทเคนและบริการเทรดคริปโต รวมทั้งหากกระดานเทรดหรือผู้ออกโทเคนไม่ปฏิบัติตามภาระหน้าที่ในการชำระบัญชี

ความเคลื่อนไหวของจีนในการอนุญาตให้ใช้คริปโตชำระหนี้เกิดขึ้นขณะที่สินทรัพย์ดิจิตอลได้รับความสนใจมากขึ้น แม้จีนแบนคริปโตอย่างกว้างขวางก็ตาม

แนวทางของศาลสูงสุดสอดคล้องกับจุดยืนเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิตอลของรัฐบาลจีนที่เน้นย้ำว่า คริปโต เช่น บิตคอยน์ อีเธอร์ และเททเธอร์ ไม่มีสถานะทางกฎหมายแบบเดียวกับเงินจริง

อนึ่ง แม้แบนการทำธุรกรรมคริปโตตั้งแต่เดือนกันยายน 2021 แต่ปักกิ่งให้การสนับสนุนแผนการริเริ่มของฮ่องกงในการสร้างฮับคริปโต โดยสถาบันการเงินหลายแห่งของรัฐบาลจีนได้นำเสนอบริการการธนาคารแก่บริษัทคริปโตท้องถิ่นของฮ่องกง

กฎเหล่านี้ของศาลสูงสุดยังตอกย้ำว่า จีนยอมรับความสำคัญในการปรับกฎระเบียบรองรับการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางการเงิน อีกทั้งยินดีสำรวจทางเลือกต่างๆ ในการไกล่เกลี่ยหนี้

ขณะเดียวกัน แม้ศาลสูงสุดอนุญาตให้ชำระหนี้ด้วยคริปโต แต่กฎนี้เฉพาะเจาะจงสำหรับหนี้ และไม่ได้หมายความถึงการรับรองสินทรัพย์ดิจิตอลเป็นสินทรัพย์ที่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างครอบคลุมสำหรับการทำธุรกรรมทุกประเภท ทว่า การวินิจฉัยของศาลสูงสุดแสดงถึงแนวทางที่พิจารณาตามบริบท และกำหนดขึ้นสำหรับสถานการณ์การชำระหนี้ที่เฉพาะเจาะจงเท่านั้น

การตัดสินใจครั้งสำคัญของศาลสูงสุดของจีนถูกคาดหมายว่า จะส่งผลกว้างขวางไม่เฉพาะกับลูกหนี้และเจ้าหนี้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงระบบนิเวศคริปโตในจีนด้วย เนื่องจากเป็นการกำหนดแบบอย่างสำหรับแนวโน้มการพัฒนากฎระเบียบควบคุมคริปโตในอนาคต บ่งชี้การยอมรับมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการรวมสินทรัพย์ดิจิตอลเข้าสู่ระบบการเงินกระแสหลัก