นักลงทุนชื่อดังยกบิตคอยน์-อีเธอเรียม สินทรัพย์ปลอดภัยเช่นเดียวกับทองคำ

เคธี วูด นักลงทุนชื่อดังเชื่อบิตคอยน์และอีเธอร์กำลังรับบทบาทสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่าและผันผวนน้อยกว่าสินทรัพย์อื่นๆ เช่นเดียวกับทองคำในสายตานักลงทุนที่ต้องการโยกเงินทุนเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจมหภาค

คอยน์ เทเลกราฟรายงานเมื่อวันจันทร์ (17) ว่า วูด ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) อาร์ก อินเวสต์ บริษัทจัดการการลงทุนที่มุ่งเน้นด้านเทคโนโลยี มองว่า วิกฤตการธนาคารเมื่อเร็วๆ นี้แสดงให้เห็นว่า บิตคอยน์ที่หลุดระดับ 30,000 ดอลลาร์ มาอยู่แถวๆ 29,359 ดอลลาร์ในวันจันทร์ และอีเธอเรียมที่เทรดที่ราคา 2,065 ดอลลาร์ในวันเดียวกันนั้น สามารถต้านทานเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และรับหน้าที่เช่นเดียวกับทองคำ

ระหว่างการให้สัมภาษณ์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (15) วูดบอกว่า ความยืดหยุ่นของบิตคอยน์ตลอดระยะเวลาที่ภาคการธนาคารเผชิญวิกฤตครั้งล่าสุดเป็นดัชนีชัดเจนที่สุดที่บริษัทของเธอเฝ้าติดตาม

วูดย้ำว่า บิตคอยน์ (บีทีซี) และอีเธอร์ (อีทีเอช) กำลังทำหน้าที่สินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำและเป้าหมายในการโยกเงินทุนไปยังสินทรัพย์ปลอดภัยของนักลงทุนในภาวะที่เศรษฐกิจมหภาคไร้ความแน่นอน

นักลงทุนหญิงทรงอิทธิพลผู้นี้เสริมว่า บิตคอยน์และอีเธอเรียมจะเปลี่ยนแปลงระเบียบโลกดั้งเดิมโดยสิ้นเชิง เนื่องจากขณะนี้คนมากมายมองว่า เงินดิจิตอลทั้งสองสกุลนี้เป็นสินทรัพย์หลบภัยเช่นเดียวกับทองคำ ซึ่งน่าสนใจมากและบ่งชี้ว่า มีการยอมรับคริปโตกว้างขวางกว่าที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ

วูดยังบอกอีกว่า ขณะนี้นักลงทุนได้โยกเงินไปสู่สินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งนำโดยสินทรัพย์ดิจิตอล บ่งชี้ว่า โลกกำลังเปลี่ยนแปลงและจะยังคงเปลี่ยนแปลงต่อไป และไม่มีใครหยุดยั้งนวัตกรรมได้

ซีอีโออาร์ก อินเวสต์คิดว่า ที่สุดแล้วคริปโตจะกลายเป็น “ประเด็นในการเลือกตั้ง” เมื่อภาคธุรกิจนี้ได้รับการยอมรับกว้างขวางขึ้น และผู้คนมองเห็นรูปแบบการกดดันด้วยการกำกับดูแลที่รัฐบาลอเมริกากำลังดำเนินการอยู่กับอุตสาหกรรมนี้เพื่อรักษาการควบคุมนโยบายการเงินและการคลังแบบรวมศูนย์อย่างชัดเจนขึ้น

อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าทุกคนเห็นด้วยกับวูด หนึ่งในนั้นคือ เรย์ ดาลิโอ ผู้ก่อตั้งบริดจ์วอเตอร์ แอสโซซิเอตส์ กองทุนบริหารความเสี่ยงใหญ่ที่สุดของโลกในแง่สินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การจัดการ ที่ให้สัมภาษณ์ไว้ตั้งแต่วันพุธที่แล้ว (12) ว่า บิตคอยน์ไม่สามารถเป็น “สกุลเงินที่มีประสิทธิภาพเพราะผันผวนเกินไปและไม่ได้รับการยอมรับจากธนาคารกลาง”

ดาลิโอร่ายยาวว่า บิตคอยน์ไม่ใช่เครื่องมือเก็บรักษาความมั่งคั่งหรือสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน จึงไม่ถือเป็นสกุลเงินที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นยังมีความผันผวนและถือเป็นตัวเลือกแทนทองคำที่มีประสิทธิภาพต่ำมาก

เขาสำทับว่า บิตคอย์อาจถูกจัดให้เป็นสินทรัพย์ผิดกฎหมายหรือถูกควบคุมด้วยกฎข้อบังคับ ไม่เป็นที่ต้องการของธนาคารกลางและประเทศต่างๆ และได้รับความสนใจในสัดส่วนเกินจริงเมื่อเทียบกับขนาด

ดาลิโอยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นด้วยการระบุว่า ทองคำเป็นสินทรัพย์สำรองที่ธนาคารกลางประเทศต่างๆ ถือครองมากที่สุดเป็นอันดับ 3 รองจากดอลลาร์และยูโรเท่านั้น

และแม้เคยวิจารณ์บิตคอยน์ว่าเป็น “นรกของนวัตกรรม” แต่เมื่อเร็วๆ นี้ดาลิโอบอกว่า เขาอยากให้มีการสร้างเหรียญที่เชื่อมโยงกับเงินเฟ้อเพื่อให้แน่ใจว่า ผู้บริโภคยังสามารถปกป้องอำนาจซื้อของตนเองไว้ได้