"มิลล์คอน สตีล" เดินหน้าพลิกโฉมธุรกิจ ปักหมุดเสริมความแกร่ง ยกระดับธุรกิจให้เติบโตภายใต้หลัก ESG มุ่งเน้นกลุ่มธุรกิจรีไซเคิลและธุรกิจที่สร้างมูลค่าเพิ่มจากขยะอุตสาหกรรม รุกคืบศึกษาการลงทุนโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมเพื่อสร้างโอกาสในการแข่งขันและเติบโตอย่างยั่งยืน ส่วนธุรกิจเหล็กพร้อมเปิดทางเจรจาหาพันธมิตรเพิ่มช่องทางในการเติบโต
นายประวิทย์ หอรุ่งเรือง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MILL เปิดเผยว่า ภาพรวมกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของกลุ่มมิลล์คอน บริษัทยังคงเดินหน้าปรับโครงสร้างธุรกิจในกลุ่มให้สอดคล้องกับนโยบายหลักที่ต้องการยกระดับสู่ธุรกิจ ESG ที่ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล โดยปีนี้บริษัทให้ความสำคัญในการขยายธุรกิจใหม่ มุ่งเน้นกลุ่มธุรกิจรีไซเคิลและธุรกิจที่สร้างมูลค่าเพิ่มจากขยะอุตสาหกรรม ซึ่งดำเนินธุรกิจโดยบริษัทลูก คือ บริษัทเวสท์เทค เอ็กโพเนนเชียล จำกัด (เดิมชื่อบริษัท ซันเทค รีไซเคิล แอนด์ ดีคาร์บอน จำกัด ปัจจุบันอยู่ระหว่างเปลี่ยนชื่อใหม่) การขยายฐานธุรกิจครั้งนี้นับเป็นก้าวใหม่ในการยกระดับธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมไปอีกขั้น โดยส่งเสริมการลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสร้างมูลค่าเพิ่มจากของเหลือใช้ (Waste-to-Value) ขณะที่กลุ่มมิลล์คอนฯ ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเหล็กจากการรีไซเคิล 100% วัสดุมีค่าอื่นที่ไม่ใช่เหล็ก เช่น พลาสติก ฟองน้ำ ยาง สามารถนำไปเป็น "ผลิตภัณฑ์ทดแทนเชื้อเพลิง" (Solid Recovered Fuel หรือ SRF) ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงขยะคุณภาพสูง นำไปผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนได้
นายประวิทย์ กล่าวต่อว่า จากการสร้างมูลค่าจากขยะอุตสาหกรรม (Waste-to-Value) ทำให้กลุ่มมิลล์คอนฯ มีแผนจะต่อยอดธุรกิจ โดยอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อลงทุนในโรงไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรมและขยะประเภทอื่นๆ สร้างโอกาสเติบโตทางธุรกิจ (New S-Curve) ให้บริษัท จากแผนที่ศึกษาไว้ตั้งเป้าจะสามารถก่อตั้งโรงผลิตไฟฟ้าจากขยะรวมได้ประมาณ 30 เมกะวัตต์
“กลุ่มบริษัทมิลล์คอนฯ เรามุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการดูแลสังคม เป้าหมายคือการต่อยอดธุรกิจจากอุตสาหกรรมเหล็กเดิม สู่ธุรกิจรีไซเคิลอย่างครบวงจร เน้นการใช้ประโยชน์จากวัสดุเหลือใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด (Zero waste) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างมูลค่าเพิ่มจากขยะอุตสาหกรรม (Waste-to-Value) ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มองเห็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจสู่อุตสาหกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน” นายประวิทย์ กล่าว
นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทมิลล์คอนฯ มีแผนที่จะส่งเสริมการสร้างคาร์บอนเครดิตให้กลุ่มบริษัทฯ พัฒนาธุรกิจสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายขององค์กรจากอุตสาหกรรมเหล็กสีเขียว (Green Steel) สู่อุตสาหกรรมรักษ์โลก บริษัทฯ ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 89,250 ตัน/ปี เตรียมพร้อมสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net-Zero) ในปี 2050
สำหรับธุรกิจเหล็กซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทนั้น มีแผนที่จะปรับโครงสร้างของกลุ่มให้สอดคล้องกับนโยบายหลักที่ต้องการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรทางธุรกิจ (Partner) ในการศึกษาและร่วมลงทุน รวมทั้งขยายธุรกิจด้านอื่นๆ เพื่อสร้างโอกาสการในการแข่งขันอย่างยั่งยืน