ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ เดินหน้าลุยรถ EV พร้อมรับจ้างประกอบรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า และรถมินิบัสไฟฟ้า เร่งพัฒนาเพื่อเตรียมขายออกสู่ท้องตลาด เป็นการตอบรับนโยบายลดก๊าซคาร์บอนของภาครัฐ ส่งเสริมการลด PM 2.5 อีกทางหนึ่ง อีกทั้งโปรเจกต์พัฒนารถบรรทุกไฟฟ้าขนาด 1.5 ตัน คาดภายในไตรมาส 3 ปีนี้ แจงอีก 2 ปีข้างหน้า นักลงทุนและผู้ถือหุ้นจะเห็นแนวทางธุรกิจรถ EV ของ TRU ได้อย่างชัดเจน
นายสมพงษ์ เผอิญโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TRU เปิดเผยภาพรวมธุรกิจและผลการดำเนินงานจากไตรมาส 4/2565 ว่า ผลงานบริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 2,884 ล้านบาท โตขึ้นกว่าปีก่อน 46% และมีกำไรสุทธิ 394 ล้านบาท โตขึ้นกว่าปีก่อนถึง 405% โดยรายได้ของบริษัทฯ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ 1.งานแม่พิมพ์และชิ้นส่วนยานยนต์ โตขึ้น 43% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 52% 2.งานรับจ้างประกอบและทำสี โตขึ้น 53% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 42% และ 3.รถพิเศษเฉพาะทางต่างๆ และ After sale service โตขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 6%
นายพัฒนศรณ์ ผู้บริหารด้านพัฒนาธุรกิจและการลงทุน TRU กล่าวว่า “ปัจจัยที่ทำให้ไตรมาสที่ 4/2565 ทางบริษัทฯ มีผลประกอบการที่ดีขึ้น เนื่องจากบริษัทลูกที่ขาดทุนน้อยลง บริษัทร่วมทุนมีผลประกอบการที่ดีขึ้น equity income ที่เข้ามาโตขึ้นถึง 2 เท่า คิดเป็นมูลค่ากว่า 63 ล้านบาท และมี margin สูงที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการควบคุมต้นทุนที่ทำได้ดี และบริษัทฯ ยังคงมีพื้นฐานและงบดุลที่แข็งแกร่ง ไม่มีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย ทำให้ปีนี้เป็นอีกปีที่ดีขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะปรับเปลี่ยนธุรกิจของบริษัทฯ ลูกในเครือที่ขาดทุน สู่ธุรกิจใหม่ที่สามารถสร้างกำไรให้ TRU ได้แทน”
นายสมพงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ TRU กล่าวเสริมว่า “ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากช่วงโควิด-19 จากการที่ประเทศจีนปิดประเทศ ทำให้ผู้ผลิตหลายแห่งทั่วโลกมองหาประเทศอื่นที่รองรับการผลิต จึงย้ายฐานการผลิตมาประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ซึ่งทางบริษัทฯ ได้รับประโยชน์จากการที่ลูกค้าเพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนที่เป็นฐานลูกค้าเก่าขยายกำลังซื้อ และลูกค้าใหม่ที่ให้ความสนใจเข้ามาเจรจาการค้า ณ ตอนนี้เราเริ่มมีการสั่งซื้อและส่งออกสินค้าไปประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งในอนาคตมีแผนจะส่งออกสินค้าไปประเทศสหรัฐอเมริกาเพิ่มเติม โดยตั้งเป้ารายได้การเติบโตของบริษัทฯ ในปี 2566 ไว้ที่ 10% ซึ่งในปี 2566 นี้ ด้านการเติบโตของรายได้อาจไม่ได้หวือหวามากนัก เนื่องจากเป็นช่วงของการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่จะเข้ามาเสริมธุรกิจ อีกด้าน บริษัทฯ มีแผนการที่จะลงทุนเครื่องจักร กระบวนการผลิต และปรับปรุงขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะเพื่อรองรับงานรับจ้างประกอบรถยนต์ที่ตลาดกำลังขยายตัว”
“ด้านธุรกิจรถ EV ทางบริษัทฯ มีงานรับจ้างประกอบรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า และรถมินิบัสไฟฟ้า ที่บริษัทฯ พัฒนาเพื่อเตรียมขายออกสู่ท้องตลาด เป็นการตอบรับนโยบายลดก๊าซคาร์บอนของภาครัฐ ส่งเสริมการลด PM 2.5 อีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ บริษัทฯ มีโปรเจกต์พัฒนารถบรรทุกไฟฟ้าขนาด 1.5 ตัน ซึ่งคาดว่าภายในไตรมาส 3/2566 จะสามารถเริ่มทำการซื้อขายได้ โดยกลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มลูกค้าด้านการขนส่งที่ให้ความสำคัญกับเรื่องการลดมลพิษ ซึ่งในอนาคตอีก 2 ปีข้างหน้า นักลงทุนและผู้ถือหุ้นจะสามารถเห็นแนวทางธุรกิจรถ EV ของ TRU ได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้นแน่นอน” นายสมพงษ์ กล่าว