หุ้นบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ถูกถล่มขายหนัก หลังนายคีรี กาญจนพาสน์ กรรมการบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บริษัทในเครือ BTS ตกเป็น 1 ใน 13 ผู้ถูกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันทุจริต ประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว
ราคาหุ้น BTS ถูกเทขายทันทีเมื่อเปิดการซื้อขายวันจันทร์ที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา จนลงไปต่ำสุดที่ 5.40 บาท ก่อนจะดีดขึ้นมาปิดที่ 6.90 บาท ซึ่งเป็นราคาต่ำสุดในรอบ 12 เดือน ลดลง 65 สตางค์ มูลค่าการซื้อขาย 2,685.43 ล้านบาท
BTS เคลื่อนไหวในระดับ 7-8 บาทมายาวนาน โดยหลังจับมือกับกลุ่มบริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ร่วมเป็นพันธมิตรธุรกิจ เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2564 โดยส่ง บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI และบริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ U เข้าลงทุนซื้อหุ้น JMART และบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER ใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 1.85 หมื่นล้านบาท ราคาหุ้น BTS ได้เริ่มปรับฐานลง
จากเคยเคลื่อนไหวแถว 10 บาท ลดมาแกว่งตัวแถว 7-8 บาท เช่นเดียวกับกลุ่ม JMART ที่ราคาทรุดลงสร้างจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 12 เดือนหลายบริษัท จนราคาหุ้นลงต่ำกว่าราคาที่กลุ่ม BTS ซื้อหุ้นเพิ่มทุนไว้เมื่อเดือนสิงหาคม 2564 ทำให้กลุ่ม BTS ขาดทุนจากเงินลงทุนในกลุ่ม JMART ไปด้วย
BTS จัดอยู่ในกลุ่มหุ้นเก็งกำไรยอดนิยม มีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวนทั้งสิ้น 110,909 ราย ซึ่งส่วนใหญ่กลายเป็นนักลงทุนที่ติดหุ้นราคาต้นทุนสูง เพราะถูกโหมประโคมถึงแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจที่สดใส จึงแห่กันเข้ามาเก็งกำไร แม้ว่าค่าพี/อี เรโชหุ้นจะอยู่ที่ประมาณ 34 เท่า และถือว่าไม่ต่ำก็ตาม แต่อัตราเงินปันผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 4.11% ถือว่าดี
ผลประกอบการ BTS ชะลอตัวลงต่อเนื่อง โดยปี 2563 มีกำไรสุทธิ 8,161.75 ล้านบาท ปี 2564 มีกำไรสุทธิ 4,576.27 ล้านบาท ปี 2565 มีกำไรสุทธิ 3,825.58 ล้านบาท และงวด 9 เดือนแรกปี 2566 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 มีกำไรสุทธิ 2,058.63 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3,013.32 ล้านบาท
มีโบรกเกอร์ 8 แห่งที่ออกบทวิเคราะห์หุ้น BTS ส่วนใหญ่แนะนำให้ซื้อ โดยประมาณการราคาเป้าหมายหุ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 10.16 บาท โดยมีบางโบรกเกอร์ให้ราคาเป้าหมายเพียง 8.70 บาท แต่บางโบรกเกอร์ให้ราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 13.60 บาท หรือสูงเกือบ 100% จากราคาปิดล่าสุด
BTS มีบริษัทในเครือข่ายหลายแห่ง มีการขยายการลงทุนตลอด จนดูเหมือนเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีแนวโน้มการเติบโตไร้ขีดจำกัด แต่การลงทุนไม่ได้ประสบความสำเร็จเสมอไป โดยเฉพาะการทุ่มเงินลงทุนประมาณ 1.85 ล้านบาท ในกลุ่ม JMART ซึ่งมูลค่าเงินลงทุนลดลงหลายพันล้านบาท ตามราคาหุ้นกลุ่ม JMART ที่ดิ่งเหวลง
และการที่นายคีรี กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด บริษัทในเครือ BTS ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดร่วมทุจริตประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ยิ่งเป็นข่าวร้ายที่ซ้ำเติม ส่งผลกระทบจิตวิทยาเชิงลบ ทำให้นักลงทุนขาดความมั่นใจ และแห่กันทุบขายหุ้นทิ้ง
หุ้นเก็งกำไรยอดนิยมอย่าง BTS กำลังระส่ำระสาย นักลงทุนรายย่อยจำนวนกว่า 1 แสนราย อยู่ในสภาพผึ้งแตกรัง ชิงขายหุ้นตัดขาดทุน
ข่าวร้ายกำลังถล่มใส่ BTS จนราคาหุ้นทรุดหนักถึงขั้นโคม่า และไม่อาจทำนายได้ว่า ก้นเหวรอบนี้อยู่ตรงไหน
