เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู.ยูทิลิตี้ เผยแนวโน้มผลงานปี 66 เข้าโหมดเติบโตรอบใหม่ วางเป้ารายได้โต 15-20% โชว์งานในมือกว่า 10,000 ล้าน สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หนุนธุรกิจช่วง 3-5 ปีข้างหน้ากระโดด พร้อมลุยประมูลงานใหม่ “รับเหมาวางระบบไฟฟ้า-วางระบบสื่อสาร” มูลค่ากว่า 1,900 ล้านบาท เผยปี 65 กวาดรายได้ 1,885.74 ล้านบาท กำไรสุทธิ 149.47 ล้านบาท บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.09 บาท/หุ้น
นายจรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่ บริษัท เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู.ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน) (JR) ผู้ประกอบธุรกิจหลักให้บริการออกแบบ จัดหา ก่อสร้างและติดตั้งงานระบบไฟฟ้าและระบบสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจร และจำหน่ายอุปกรณ์ รวมถึงบริการบำรุงรักษาอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าและระบบสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นหลัก เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 15-20% เทียบกับปีที่ผ่านมา โดยได้รับปัจจัยหนุนจากงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) ที่มีกว่า 10,604.14 ล้านบาท สนับสนุนธุรกิจในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าเติบโตก้าวกระโดด และมีแผนที่จะประมูลงานใหม่เพิ่มประมาณ 1,900 ล้านบาท ในปีนี้ โดยส่วนใหญ่เป็นงานธุรกิจรับเหมาวางระบบไฟฟ้า และวางระบบสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ
“จากงานในมือที่มีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้ธุรกิจของ JR เข้าสู่โหมดเติบโตรอบใหม่ จากในช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และปัญหาน้ำท่วม ทำให้เป็นอุปสรรคในการเข้าไซต์งานก่อสร้าง อีกทั้งยังทำให้งานประมูลของภาครัฐและเอกชนมีการชะลอออกไป อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ที่คลี่คลายทำให้ทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติ สามารถส่งมอบงานได้ตามแผน และได้งานประมูลใหม่ ทำให้ทิศทางธุรกิจกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่ง”
โดยในปี 2566 รายได้ส่วนใหญ่จะมาจากการรับรู้รายได้โครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน โครงการตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงแยกลำสาลี-ถนนเทพารักษ์ และโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าลงใต้ดินโครงการตามแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพูเป็นหลัก
ส่วนโครงการสถานีชาร์จไฟฟ้าที่ทำร่วมกับบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) ในปีที่ผ่านมา ดำเนินการไปแล้ว 28 สถานี ลงทุนเฉลี่ย 2-5 ล้านบาท โดยในปี 2566 คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้มากกว่า 50 จุด ปัจจุบันได้มีการยื่นประมูลงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่เขื่อนภูมิพล ร่วมกับบริษัทซีเมนส์ มูลค่างานกว่า 1,000 ล้านบาท และอยู่ระหว่างรอการเปิดซองทางด้านเทคนิค อีกทั้งยังมีการขยายงานไปธุรกิจด้านปิโตรเคมี ช่วงปลายปีที่ผ่านมาได้มีการเซ็นสัญญาร่วมกับบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP) มูลค่า 80 ล้านบาท
ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2565 มีรายได้รวม 1,885.74 ล้านบาท กำไรสุทธิ 149.47 ล้านบาท โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.09 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 20 เมษายน 2566 และจ่ายปันผลวันที่ 9 พฤษภาคม 2566