ฉางเผิง จ้าว (Changpeng Zhao) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “CZ” ออกมาเปิดเผยข้อมูลหลังจากที่ติดโผอยู่ในการตรวจสอบของ ก.ล.ต. สหรัฐว่า อนาคตอันใกล้อุตสาหกรรมอาจเริ่มใช้ Stablecoin ที่ตรึงกับยูโร เยน หรือดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งตอนนี้ทาง ก.ล.ต.กำลังเดินหน้าตรวจสอบ Stablecoin ทุกสกุลเงินคริปโตที่ตรึงกับดอลล่าร์สหรัฐ
จากการรายงานของ cointelegraph ระบุถึงการออกมาเปิดเผยของ ฉางเผิง จ้าว CEO Binance หลังการเข้าตรวจสอบของ ก.ล.ต. สหรัฐว่า อนาคตอันใกล้นี้อุตสาหกรรมคริปโต อาจจะต้องปรับเปลี่ยน หันไปใช้ Stablecoin ที่ตรึงกับอัตราแลกเปลี่ยน ในสกุลเงินยูโร เยนญี่ปุ่น หรือเหรียญ Stablecoin ที่อิงสกุลเงินดอลลาร์สิงคโปร์ เพื่อลดอัตราการพึ่งพาเหรียญ Stablecoins ที่ใช้สกุลเงินเหรียญสหรัฐ
โดยล่าสุดจากโพสต์ทวิตเตอร์ของ ฉางเผิง จ้าว เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ซึ่งได้ตอบคำถามเกี่ยวกับอุตสาหกรรมคริปโต (crypto) โดยใช้ทองคำเป็นมาตรฐานมูลค่าแทนดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่ง ฉางเผิง จ้าว เห็นด้วยว่าการใช้ทองคำนั้น “สมเหตุสมผล” อย่างไรก็ตาม “ค่าใช้จ่ายของคนส่วนใหญ่ยังคงเป็นสกุลเงินที่ออกและรับรองโดยเวิร์ลแบงก์” ด้วยเหตุผลนี้ คนส่วนใหญ่จึงคำนวณผลตอบแทนจากการลงทุนเป็นดอลลาร์ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไม Stablecoins ที่หนุนด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จึง “ยังคงมีความสำคัญ”
อย่างไรก็ตาม ฉางเผิง จ้าว แย้งว่าการกระทำล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อเหรียญ Stablecoins ที่อิงกับดอลลาร์สหรัฐ อาจทำให้อุตสาหกรรมคริปโตทั่วโลกต้องพึ่งพาสกุลเงินอื่นๆ เช่น ยูโร เยน และดอลลาร์สิงคโปร์เพื่อสนับสนุน Stablecoins มาแทนที่ หาก Stablecoins ที่อิงอัตราแลกเปลี่ยนสหรัฐถูกแทรกแซง
“ผมคิดว่าจากแรงกดดันและสถานการณ์ในปัจจุบันที่หน่วยงานกำกับดูแล Stablecoins อิงกับดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งอนาคตเพื่อใหม่มีอิสระตามแนวทางคริปโตอุตสาหกรรมอาจจะต้องไม่ยึดติดและขยายไปยัง Stablecoins อื่นๆที่ไม่ใช่ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนับจากนี้เราน่าจะเห็นสกุลเงินยูโรหรือเยนญี่ปุ่นอื่น ๆ สกุลเงินดอลลาร์สิงคโปร์ที่อิงกับ Stablecoins มากขึ้น ดังนั้นจึงกระตุ้นให้เรามองหาตัวเลือกอื่น ๆ ในที่ต่างๆ มากขึ้น”
อย่างไรก็ตามอัลกอริทึม Stablecoins อาจมีบทบาทมากขึ้นในระบบนิเวศของ crypto ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ฉางเผิง จ้าว เตือนว่า Stablecoins แบบอัลกอริธึมนั้น “โดยเนื้อแท้แล้วจะต้องมีความเสี่ยง” ซึ่ง Stablecoins ที่รองรับคำสั่ง Fiat ไม่มี ในมุมมองของ ฉางเผิง จ้าว ความเสี่ยงเหล่านี้จำเป็นต้องเปิดเผยอย่างโปร่งใสต่อผู้ใช้ และต้องมีการเปิดเผยเงินสำรองสำหรับเหรียญ Stablecoin ที่รองรับ fiat ด้วย ด้วยวิธีนี้ “ผู้ใช้สามารถตัดสินใจได้อย่างชัดเจนว่าจะเกิดอะไรขึ้น” และตัดสินใจด้วยตนเองว่าต้องการถือหรือใช้เหรียญ Stablecoin ใดๆ
ทั้งนี้ถ้อยแถลงของ ฉางเผิง จ้าว มีขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่ ก.ล.ต. กล่าวหาว่า Binance USD (BUSD) เหรียญ Stablecoin ที่อิงกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่ได้จดทะเบียนภายใต้กฎหมายของสหรัฐฯ โดยหากย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 TerraUSD ที่เป็นอัลกอริทึม Stablecoin (UST) สูญเสียการตรึงกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลทำให้นักลงทุน ขาดทุนรวมกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ