กสิกรฯ มองทิศทางบาทอ่อนระยะสั้น ดอลล์แข็งค่า-ปัจจัยด้านฤดูกาล

นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า ทิศทางค่าเงินบาทในช่วงนี้ค่อนข้างผันผวน โดยปัจจัยหนุนในทางแข็งค่าเริ่มลดลง โดยคาดการณ์กรอบเงินบาทช่วง 4 สัปดาห์จากนี้ที่ 32.59-34.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และมีโอกาสทดสอบแนวต้านที่ระดับ 34.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐได้จากปัจจัยทางด้านฤดูกาลที่บริษัทญี่ปุ่นในไทยจะต้องเริ่มมีการจ่ายปันผลให้บริษัทแม่ในญี่ปุ่นในช่วงเดือนมีนาคมนี้ และต่อเนื่องด้วยบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะต้องจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นต่างชาติในเดือนเมษายน-มิถุนายน โดยในปีก่อนใช้เม็ดเงินกว่า 90,000 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงประมาณการค่าเงินบาท ณ สิ้นปี 2566 ที่ 33.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยได้รับปัจจัยบวกด้านดุลบัญชีเดินสะพัดในปีนี้ที่คาดการณ์ว่าจะเกินดุลประมาณ 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปีก่อนหน้าที่ขาดดุล 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ จากการประเมินมูลค่าเงินบาทที่เหมาะสมจากประเทศคู่แข่ง-คู่ค้าของไทย พบว่ามูลค่าที่เหมาะสมอยู่ที่ระดับ 34.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยปัจจุบันมูลค่าเงินบาทอยู่สูงกว่าระดับเหมาะสม 2.6% จากค่าเงินบาทช่วงนี้ที่ประมาณ 34.16 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

"ค่าเงินบาทเรามีแรงเก็งกำไรเข้ามาตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อนด้วยปัจจัยเรื่องจีนเปิดประเทศก่อนกำหนด ซึ่งจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวไทย ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาทั้งตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ แต่เมื่อถึงระดับหนึ่งจะต้องมีการขายทำกำไร รวมถึงเงินดอลลาร์สหรัฐมีแรงหนุนในฝั่งแข็งค่าหลังตลาดมองการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะชะลอลง แม้เฟดส่งสัญญาณการปรับอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง ประกอบกับความไม่แน่นอนในนโยบายของเฟดประเด็นการปรับขึ้นดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ทำให้ตลาดเงินมีความผันผวน และปัจจัยด้านฤดูกาลของไทยทำให้แรงส่งด้านแข็งค่าของเงินบาทลดลง ทำให้เห็นเงินบาทอ่อนค่าและจะมีความผันผวนมากขึ้น แต่ทั้งปีแล้วจะยังได้รับปัจจัยบวกจากด้านการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวต่อเนื่องอยู่"

ด้านทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายคาดการณ์ธนาคารแห่งประเทศไทยท(ธปท.) ยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้าในเดือนมีนาคมสู่ระดับ 1.75% และคงไว้เพื่อรอดูสถานการณ์ด้านเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในช่วงนี้ที่ประเทศไทยน่าจะมีการเลือกตั้งในระยะข้างหน้า โดยมุมมอง ธปท.จะยังคงเดินหน้าปรับจึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนถึงระดับ 2.00% ในระยะต่อไป

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังประมาณจีดีพีไทยปีนี้เติบโตได้ 3.7% จากปีก่อนหน้าที่ 3.2% การส่งออกหดตัว 0.5% มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 25.5-30 ล้านคน และอัตราเงินเฟ้อที่ 2.8% จากปีก่อนหน้าที่ 6.2%