กลายเป็นอิหยังว่ะ ขึ้นมาทันทีในโลกคริปโต เมื่อผู้บริหารธุรกิจแฟชั่นบนเกาะฮ่องกง ซึ่งปวารณาตัวเองเป็นทาสแมว ตกหลุมรักต้องการอยากเลี้ยงแมวไทย แต่กลายเป็นตกหลุมพรางมิจฉาชีพ หลอกลวงขายแมวต้องสูญเงินไปร่วม 2 ล้านบาท
จากการเปิดเผยของหนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ ระบุถึงเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นซึ่งกล่าวเมื่อวันพุธ (8 ก.พ.) ว่า ผู้บริหารแฟชั่นชาวฮ่องกงวัย 58 ปี มีความคิดที่อยากจะรับเลี้ยงแมวจากประเทศไทย ซึ่งทำให้เธอประกาศหาลูกแมวผ่านทางช่องทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งโพสต์ดังกล่าวนั่นไปเข้าทางของกลุ่มมิจฉาชีพเข้าอย่างจัง โดยกลุ่มมิจฉาชีพวางแผนในการหลอกลวง โดยให้เธอโอนเงินเพื่อเป็นค่าแมวในรูปของ Bitcoin มูลค่ามากกว่า 764,000 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 25 ล้านบาท
ตามรายงานสรุปคดีของกองกำลังตำรวจฮ่องกง ซึ่งเธอให้การกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นว่า ได้ติดต่อกับบุคคลที่ไม่มีชื่อทางออนไลน์ในเดือนเมษายน 2565 และยังคงติดต่อกับพวกเขาผ่าน WhatsApp ตามช่องทางต่างๆ ซึ่งกลุ่มมิจฉาชีพบอกกับเธอว่า เธอสามารถรับลูกแมวได้ฟรี แต่เธอจะต้องจ่ายค่าขนส่งและค่าประกันการเดินทาง ค่าตรวจสุขภาพและใบรับรองการตรวจโรคสำหรับสัตว์เลี้ยง โดยจะต้องจ่ายผ่านสกุลเงินดิจิทัล
ซึ่งเธอทำตามคำแนะนำของกลุ่มมิจฉาชีพโดยได้ไปเปิดบัญชี cryptocurrency และส่งเงินไปยัง e-wallet ของมิจฉาชีพ จากนั้นกลุ่มมิจฉาชีพก็ได้วางแผนลวงให้กับทางผู้เสียหายนั้นว่า แมวเธอได้ตายในระหว่างขั้นตอนการขนส่ง ในเวลาเดียวกัน มีบุคคลนิรนามอีกคนหนึ่งซึ่งสวมรอยเป็นพนักงานธนาคารต่างประเทศติดต่อเธอ โดยบอกว่าเธอจะได้รับค่าชดเชยสำหรับการตายของแมวด้วยเงินประกันประมาณ 150,000 ดอลลาร์ แต่ว่าเธอจะต้องจ่ายเงินเป็นค่าประกันหรือค่าธรรมเนียมในการจัดการเรื่องดังกล่าว ซึ่งเธอก็ได้ทำตามคำแนะนำนั้นอีก และเมื่อถึงเวลาผ่านไป เธอเริ่มระแคะระคายต่อสิ่งที่เกิดขึ้น จึงได้ติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทำให้รู้ว่าที่ผ่านมาทั้งหมดนั้นถูกหลอกลวง
ทั้งนี้เธอได้ใช้เงินซื้อ cryptocurrency ไปทั้งสิ้นมูลค่ากว่า 764,574 ดอลลาร์ และส่งทั้งหมดให้กับนักต้มตุ๋น เจ้าหน้าที่กล่าว
นอกจากนี้ในยอดรวมธุรกรรมซึ่งถูกโอนออกไปมากกว่า 40 ครั้งขณะที่ Bitcoin ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงพฤศจิกายน เฉพาะในเดือนมกราคมเท่านั้นที่ผู้บริหารคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติและรายงานคดีของเธอต่อตำรวจ
ขณะที่ทางตำรวจฮ่องกงอยู่ในระหว่างสืบสวนและรวบรวมหลักฐาน โดยระบุว่ายังไม่มีใครถูกจับกุมหรือหาบุคคลที่ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้
ทั้งนี้การหลอกลวง Crypto ได้เพิ่มขึ้นทั่วโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีโดยความสูญเสียในปี 2564 มีจำนวนเกือบ 60 เท่าของการสูญเสียที่บันทึกไว้ในปี 2561 โดย Federal Trade Commission รายงานในเดือนมิถุนายนปีที่ผ่านมาว่า นักต้มตุ๋นทำเงินได้ประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2564 ตาม FTC
ขณะที่ บริษัทวิเคราะห์บล็อคเชน Chainalysis รายงานการประเมินที่สูงขึ้นสำหรับปีนั้น โดยระบุว่าในปี 2564 นักต้มตุ๋นคริปโตคุกคามระบบและจารกรรมเงินไปมากกว่า 14,000 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ทางการนิวซีแลนด์ได้ออกมาเตือนประชาชนว่า กลุ่มผู้รักสัตว์เลี้ยงมักจะเป็นหนึ่งในเป้าหมายของการตกเป็นเหยื่อด้วย ในเดือนเมษายน มีมิจาชีพหลอกขายลูกสุนัขโดยใช้รูปถ่ายที่พวกเขาพบทางออนไลน์ โดยขอให้ผู้ซื้อที่มีศักยภาพโอนเงินมากกว่า 1,200 ดอลลาร์ในสกุลเงินดิจิทัลเพื่อซื้อสัตว์เลี้ยงดังกล่าว โดยจะรวมไปถึงค่าขนส่ง ค่าวัคซีน หรือค่าประกันสุขภาพสัตว์รวมอยู่ด้วย
ขณะที่ในปี 2561 นักต้มตุ๋น Bitcoin พุ่งเป้าไปที่เจ้าของสุนัข โดยการเรียกค่าไถ่ ซึ่งเจ้าของสุนัขที่หายไปใน North Carolina หลายราย โดนเรียกร้องค่าไถ่สำหรับสัตว์เลี้ยงเป็นมูลค่าสูงมาก