xs
xsm
sm
md
lg

แนะนักลงทุนบิตคอยน์ตั้งการ์ดต่อ อดใจรอตลาดกระทิงคืนชีพปีหน้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แม้ล่าสุดบิตคอยน์ดีดทะลุ 20,000 ดอลลาร์ แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า BTC ไม่มีแนวโน้มทดสอบสถิติสูงสุดตลอดกาลรอบใหม่ แถมราคากลับจะตกลงอีกระยะและต้องรอจนถึงปีหน้าตลาดกระทิงจึงจะฟื้นคืนชีพ

สัปดาห์ที่แล้วในการประชุมคริปโตที่เซนต์มอริตซ์ ซีเอ็นบีซีได้พูดคุยกับคนวงในที่ต่างให้ภาพว่า ปี 2023 จะเป็นอีกหนึ่งปีที่นักลงทุนต้องระมัดระวัง เนื่องจากบิตคอยน์ (BTC) อ่อนไหวต่อสถานการณ์เศรษฐกิจมหภาค เช่น การขึ้นดอกเบี้ย และถูกคาดหมายว่า ราคาจะยังผันผวนต่อ

แม้ไม่มีแนวโน้มตลาดกระทิงฟื้นคืนชีพในปีนี้ แต่ผู้เชี่ยวชาญมองแนวโน้มแง่ดีสำหรับปีหน้าและปีต่อๆ ไป

ปี 2022 ตลาดคริปโตโดยรวมมีมูลค่าลดลงประมาณ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ และเต็มไปด้วยปัญหาสภาพคล่องและการล้มละลาย โดยส่งท้ายปีด้วยการล่มสลายของกระดานเทรดคริปโต FTX ที่สร้างความปั่นป่วนไปทั่ววงการ

อย่างไรก็ดี แม้ BTC ประเดิมศักราชใหม่ด้วยการดีดขึ้นเบาๆ สอดคล้องกับราคาสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ เช่น หุ้น แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่า บิตคอยน์ไม่มีแนวโน้มทดสอบสถิติสูงสุดตลอดกาลที่เกือบ 69,000 ดอลลาร์ที่ทำไว้ในเดือนพฤศจิกายน 2021 แต่ราคาจะตกลงต่ออีกรอบ

บิลล์ ไท่ นักธุรกิจเงินร่วมลงทุนและผู้เชี่ยวชาญด้านคริปโต บอกกับซีเอ็นบีซีว่า มีโอกาสที่บิตคอยน์จะดิ่งลงแตะ 12,000 ดอลลาร์ก่อนเริ่มไต่ขึ้น

เมลเทม เดมิเรอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของคอยน์แชร์ส คาดว่า ราคาบิตคอยน์จะแกว่งตัวในกรอบราคาต่ำสุดที่ระหว่าง 15,000–20,000 ดอลลาร์ และสูงสุดที่ 25,000-30,000 ดอลลาร์ และสำทับว่า การบังคับขายที่เกิดขึ้นในปี 2022 อันเป็นผลจากการล้มละลายของบริษัทหลายแห่งตอนนี้จบลงแล้ว แต่ทว่าจะยังไม่มีเงินทุนใหม่ๆ ไหลเข้าบิตคอยน์

นอกจากนั้นนักลงทุนยังจับตาสถานการณ์เศรษฐกิจมหภาค เนื่องจากบิตคอยน์ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า มีความเกี่ยวพันกับสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งดัชนีแนสแด็กที่เน้นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี สินทรัพย์เหล่านี้ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และความเคลื่อนไหวอื่นๆ เกี่ยวกับเศรษฐกิจมหภาค

ปีที่ผ่านมา เฟดเริ่มขึ้นดอกเบี้ยแรงเพื่อดึงอัตราเงินเฟ้อให้ลดลงซึ่งส่งผลกระทบหนักต่อสินทรัพย์เสี่ยงรวมถึงบิตคอยน์

เดมิเรอร์สสำทับว่า การเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคอาจส่งผลดีต่อ BTC เนื่องจากขณะนี้ทั้งสถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคและสภาพแวดล้อมทางการเมืองล้วนไม่มีความแน่นอน แถมเงินเฟ้อยังคงร้อนแรง

ผู้เล่นในอุตสาหกรรมคริปโตหลายคนที่ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซียังพูดถึงวงจรในอดีตของบิตคอยน์ที่เกิดขึ้นทุก 4 ปี ซึ่งโดยปกติแล้วบิตคอยน์จะทำสถิติสูงสุดตลอดกาลก่อนปรับฐานครั้งใหญ่ ตามด้วยปีที่เลวร้ายและปีแห่งการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป

จากนั้นจะเกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า “bitcoin halving” ที่นักขุดเหรียญจะได้รางวัลจากการตรวจยืนยันธุรกรรมลดลงครึ่งหนึ่ง

เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นทุก 4 ปีและชะลอการปล่อยอุปทานเหรียญเข้าสู่ตลาด ทั้งนี้ การปล่อยอุปทานเหรียญกำหนดระดับสูงสุดไว้ที่ 21 ล้านเหรียญ

บิตคอยน์ ฮาล์ฟวิ่งมักเกิดก่อนภาวะกระทิง และฮาล์ฟวิ่งรอบต่อไปจะเกิดขึ้นในปี 2024

แอนโทนี สการามุชชี ผู้ก่อตั้งสกายบริดจ์ แคปิตอล เรียกปี 2023 ว่า เป็นปีแห่งการฟื้นตัวสำหรับบิตคอยน์ และทำนายว่า เงินดิจิตอลที่มีมูลค่าสูงสุดในโลกสกุลนี้จะเทรดที่ 50,000-100,000 ดอลลาร์ใน 2-3 ปีข้างหน้า

ขณะเดียวกัน ไท่เชื่อว่า อาจต้องรออีกปีกว่าที่ตลาดกระทิงจะกลับมาอีกครั้ง เนื่องจากการล่มสลายของ FTX อาจส่งผลกระทบอีก 6-9 เดือน

ด้านฌอง-บาติสต์ กราฟติโย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (CEO) กระดานเทรดคริปโต บิตแสตมป์ คาดว่า ตลาดกระทิงครั้งต่อไปจะมาถึงในอีก 2 ปีโดยอ้างอิงความสนใจของนักลงทุนประเภทสถาบัน

อย่างไรก็ตาม เดมิเรอร์สเตือนว่า เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปี 2022 สร้างความเสียหายใหญ่หลวงต่อชื่อเสียงของอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิตอลและต้องใช้เวลาระยะหนึ่งจึงจะเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาได้

กูรูฟันธงบิตคอยน์จะกลับสู่ภาวะกระทิงปีหน้า ส่วนปีนี้นักลงทุนยังต้องระวังกันต่อ
กำลังโหลดความคิดเห็น