หุ้นไทยยังคงพุ่งบวกต่อเนื่องปิด +4.12 จุด โบรกฯ ชี้ หุ้นพุ่งแรงรับอานิสงส์ China Reopening คาดนักท่องเที่ยวเข้าไทยเร็วกว่าคาด หลังยอดจองตั๋วเที่ยวบินล้น ฟาก ททท.ปรับเป้ายอดนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 66 กลับฟื้นตัว อีกทั้งยังมีเม็ดเงินนักลงทุนต่างชาติไหลเข้าไทยหลังวานนี้ซื้อสุทธิและ long ตลาดฟิวเจอร์ส มองกรอบดัชนีวันพรุ่งนี้แนวต้านที่ 1,650 จุด หากผ่านได้ให้ถัดไป 1,670 จุด แนวรับ 1,640 และ 1,635 จุด แนะจับตายอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐที่จะทยอยประกาศออกมาในคืนนี้
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 28 ธ.ค. 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +4.12 จุด หรือ +0.25% โดยปิดที่ระดับ 1,647.28 จุด มูลค่าการซื้อขาย 47,109.10 ล้านบาท โดยภาพรวมการลงทุนในวันนี้ ดัชนีแกว่งตัวไซด์เวย์ในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,649.42 จุด ขณะเดียวกันก็ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,641.54 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 720 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 625 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 631 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +2,664.06 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -2,091.92 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -436.92 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -135.22 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,045.05 ล้านบาท ปิดที่ 704.00 บาท ลดลง 12.00 บาท
2.AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,001.80 ล้านบาท ปิดที่ 75.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
3.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,624.54 ล้านบาท ปิดที่ 32.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
4.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,222.57 ล้านบาท ปิดที่ 29.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
5.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,181.67 ล้านบาท ปิดที่ 175.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.EGCO ปิดที่ 172.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาทหรือ 1.18%
2.BH ปิดที่213.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาทหรือ 0.95%
3.JMT ปิดที่67.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาทหรือ 2.26%
4.SCC ปิดที่341.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาทหรือ 0.29%
5.CPN ปิดที่72.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาทหรือ 1.05%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.HANA ปิดที่51.75 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 0.96%
2.FORTH ปิดที่33.00 บาท ลดลง 0.25บาท หรือ 0.75%
3.KCE ปิดที่46.75 บาท ลดลง 0.25บาท หรือ 0.53%
4.CPALL ปิดที่67.50 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.37%
5.TCAP ปิดที่42.50 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.58%
ในขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,247.34 จุด เพิ่มขึ้น 9.70 จุด หรือ 0.43% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,000.54 จุด เพิ่มขึ้น 4.47 จุด หรือ 0.45% และ ดัชนีตลาด mai ปิดที่ 575.99 จุด เพิ่มขึ้น 2.50 จุด หรือ 0.44%
นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ภาพดูดีกว่าตลาดอื่นในภูมิภาค โดยเคลื่อนไหวในแดนบวกได้มากกว่า จากแรงหนุนจีนเปิดประเทศ คาดหวังนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยได้เร็วกว่าที่คาดไว้มาก โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ปรับเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2566 เป็น 25 ล้านคน จากเดิมที่ 22-23 ล้านคน ขณะที่ไอร่าคาดนักท่องเที่ยวต่างชาติน่าจะมากกว่าที่ตลาดคาด ทำให้ตลาดรับ Sentiment เชิงบวก ส่งผลให้กลุ่ม China Reopening ปรับขึ้นได้ต่อเนื่อง ผลักดันภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้
นอกจากนี้ในวันนี้ยังมีเม็ดเงินต่างชาติ (Fund Flow) ยังไหลเข้าต่อเนื่อง หลังจากวานนี้ (27 ธ.ค.) ซื้อสุทธิกว่า 4 พันล้านบาท และ long ในตลาดฟิวเจอร์สกว่า 4 หมื่นสัญญา คาดว่า Fund Flow น่าจะยังคงไหลเข้าต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 1/66 เพราะมองว่าหุ้นไทยยังน่าสนใจมากกว่าตลาดหุ้นทั่วโลก
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้มองว่าตลาดมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นไปต่อได้ แต่อาจจะติดแนวต้านที่ 1,650 จุดบวกลบ หากผ่านไปได้ให้แนวต้านถัดไปที่ 1,670 จุด และหากผ่านระดับ 1,650 จุดไปได้น่าจะทำให้ปีหน้ามีโอกาสเห็นตลาดหุ้นไทยแรลลี่ ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,640 และ 1,635 จุด
"คืนนี้นักลงทุนยังต้องติดตามยอดขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ หากออกมาต่ำคาดก็อาจทำให้ตลาดกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ยังคุมเข้มนโยบายการเงิน ซึ่งก็อาจส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้ทรงตัว" นายณรงค์เดช กล่าวทิ้งท้าย