หุ้นไทยปิดตลาด -1.27 จุด โบรกฯ ชี้ตลาดกังวลเศรษฐกิจกลับมาถดถอยในสหรัฐฯ หลัง FED และธนาคารกลางยุโรป (ECB) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดแนวโน้มในสัปดาห์หน้ายังคงแกว่งตัวไซด์เวย์ หลังตลาดเริ่มชะลอตัวลงจากช่วงใกล้เทศกาลหยุดยาว โดยมองแนวต้านที่ 1,630-1,635 จุด และแนวรับที่ 1,610-1,615 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 16 ธ.ค.2565 ปรับตัวลดลง -1.27 จุด หรือ -0.08% โดยปิดตลาดที่ 1,619.01 จุด มูลค่าการซื้อขาย 66,299.75 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ ดัชนีแกว่งตัวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,620.44 จุด ในทางกลับกันปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,612.02 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 577 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 569 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 868 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิกว่า +2,310.88 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +92.00 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า บัญชี บล.ขายสุทธิกว่า -819.10 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -1,583.79 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,433.92 ล้านบาท ปิดที่ 686.00 บาท ลดลง 26.00 บาท
2.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,341.32 ล้านบาท ปิดที่ 31.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
3.CPF มูลค่าการซื้อขาย 2,300.20 ล้านบาท ปิดที่ 24.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
4.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,268.65 ล้านบาท ปิดที่ 172.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
5.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,803.44 ล้านบาท ปิดที่ 73.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 214.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ 1.90%
2.EA ปิดที่ 96.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 1.32%
3.SCC ปิดที่ 333.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 0.30%
4.GULF ปิดที่ 54.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 1.40%
5.PSL ปิดที่ 15.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 3.31%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.AEONTS ปิดที่ 172.00 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 1.43%
2.FORTH ปิดที่30.25 บาท ลดลง 1.75บาท หรือ 5.47%
3.TIPH ปิดที่ 47.50บาท ลดลง 1.25บาท หรือ -2.56%
4.SINGER ปิดที่27.50 บาท ลดลง 1.00บาท หรือ -3.51%
5.MEGA ปิดที่ 45.50 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 2.15%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,203.93 จุด เพิ่มขึ้น 2.24 จุด หรือ 0.10% ด้านดัชนี SET50 ปิดที่ 980.24 จุด เพิ่มขึ้น 1.66 จุด หรือ 0.17% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 571.03 จุด ลดลง -3.27 จุด หรือ -0.57%
นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ ตอบรับความกังวลการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ อีกทั้งการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นทั้งธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ยังเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยกดดันตลาดหุ้น
อย่างไรก็ตาม แรงซื้อกลุ่มหุ้นท่องเที่ยวตอบรับโอกาสการเปิดประเทศของจีน โดยเฉพาะกลุ่มเดินทาง เช่น AOT, BEM รวมถึงหุ้นใหญ่บางตัวที่มีปัจจัยเฉพาะตัว อย่าง CPF ที่มีการซื้อหุ้นคืน ช่วยหนุนภาพรวมดัชนีให้ลดช่วงลบลง
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้าคาดว่าแกว่งไซด์เวย์ ยังไม่มีปัจจัยสำคัญที่จะประกาศออกมา และเข้าใกล้เทศกาลวันหยุด ทำให้นักลงทุนเริ่มชะลอการลงทุนไปบางส่วน โดยประเมินกรอบการลงทุนในสัปดาห์หน้ามองแนวต้าน 1,630-1,635 จุด และแนวรับ 1,610-1,615 จุด
