xs
xsm
sm
md
lg

FED เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย ฉุด SET ปิดตลาดร่วง -13.08 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดตลาดร่วง -13.08 จุด โบรกฯเผย ดัชนีร่วงตามตลาดหุ้นอื่น จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐอีก 0.5% ตามคาด หลังปรับขึ้นแรง 0.75% มาแล้วถึง 4 ครั้งติดต่อกัน โดยตั้งเพดานการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีหน้าสูงที่สุด (Terminal Rate) แตะ 5.1% ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาด แนะจับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามเฟดอีก 0.50% เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ ประเมินกรอบการลงทุนในวันพรุ่งนี้แนวรับที่ 1,615 จุด และแนวต้านที่ 1,635 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 15 ธ.ค. 2565 ปรับตัวลดลงกว่า -13.08 จุด หรือ -0.80% โดยปิดตลาดที่ 1,620.28 จุด มูลค่าการซื้อขาย 58,622.88 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ ดัชนีแกว่งตัวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,634.02 จุด ขณะที่ในด้านการปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,616.99 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 313 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 439 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 1,295 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +2,608.45 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -1,267.57 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -133.83 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -1,207.04 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,061.98 ล้านบาท ปิดที่ 31.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
2.DTCENT มูลค่าการซื้อขาย 2,205.15 ล้านบาท ปิดที่ 2.48 บาท ลดลง 0.38 บาท
3.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,179.64 ล้านบาท ปิดที่ 173.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
4.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,722.88 ล้านบาท ปิดที่ 65.25 บาท ลดลง 0.75 บาท
5.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,511.72 ล้านบาท ปิดที่ 73.25 บาท ลดลง 1.00 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.GPSC ปิดที่ 72.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 2.84% 
2.BGRIM ปิดที่ 39.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 3.29% 
3.KBANK ปิดที่ 143.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 0.70%
4.DTAC ปิดที่ 43.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 1.17% 
5.PTTGC ปิดที่ 47.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 1.08%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCC ปิดที่ 332.00 บาท ลดลง 4.00 บาท หรือ 1.19% 
2.SINGER ปิดที่ 28.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 8.06% 
3.AEONTS ปิดที่ 174.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 1.41% 
4.JMART ปิดที่ 40.50 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ 4.14% 
5.KCE ปิดที่ 48.00 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ 3.52%

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,201.69 จุด ลดลง -16.84 จุด หรือ -0.76% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 978.58 จุด ลดลง -6.12 จุด หรือ -0.62% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 574.30 จุด ลดลง -5.45 จุด หรือ -0.94%

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีปรับตัวลงในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค หลังจากผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นเวลานาน และ Dot Plot ชี้ว่าเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยไปจนถึง 5.1% ในปีหน้าซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาด

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจจีน ทั้งยอดค้าปลีกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาด ส่งผลให้มีแรงขายจากกลุ่มค้าปลีก พลังงาน และ ขนส่ง กดดันดัชนีตลาดหุ้น โดยนักลงทุนยังคงรอติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ที่คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50%

ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ คาดภาพรวมตลาดแกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง พร้อมให้แนวรับ 1,615 จุด และ แนวต้าน 1,635 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น