xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยตอบรับดัชนี CPI ที่ต่ำกว่าคาด ดัน SET INDEX ปิด +7.45 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดตลาด +7.45 จุด โบรกฯ ชี้ SET INDEX ปรับตัวเคลื่อนไหวในแดนบวก ขนานไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นในภูมิภาค หลังรับรู้ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ CPI ของสหรัฐในเดือน พ.ย. อยู่ที่ 7.1% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ที่ 7.3% แนะจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมถึงการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) พร้อมประเมินกรอบดัชนีวันพรุ่งนี้แนวรับที่ 1,625 จุด และแนวต้านที่ 1,640 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 14 ธ.ค.2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +7.45 จุด หรือ +0.46% โดยปิดตลาดที่ 1,633.36 จุด มูลค่าการซื้อขาย 57,299.43 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีแกว่งตัวเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,638.88 จุด ขณะเดียวกันก็ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,628.17 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 794 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 590 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 644 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +2,177.01 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า+1,964.90 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -4,109.43 ล้านบาท และ บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -32.48 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 3,241.75 ล้านบาท ปิดที่ 722.00 บาท เพิ่มขึ้น 22.00 บาท
2.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,241.49 ล้านบาท ปิดที่ 174.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
3.SGC มูลค่าการซื้อขาย 2,622.61 ล้านบาท ปิดที่ 5.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
4.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,337.60 ล้านบาท ปิดที่ 28.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
5.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,609.11 ล้านบาท ปิดที่ 31.75 บาท ลดลง 0.25 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCC ปิดที่ 336.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท หรือ 1.51%
2.BH ปิดที่ 211.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท หรือ +2.43%
3.AEONTS ปิดที่ 177.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท หรือ 2.02%
4.CBG ปิดที่ 97.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 1.57%
5.EGCO ปิดที่ 170.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 0.89%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.KBANK ปิดที่ 142.00 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 1.05%
2.BBL ปิดที่ 143.50 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ0.69%
3. PTTEP ปิดที่ 174.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ-0.57%
4.ONEE ปิดที่ 8.70บาท ลดลง 0.60บาท หรือ 6.45%
5.FORTH ปิดที่33.50 บาท ลดลง 0.50บาท หรือ 1.47%

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,218.53 จุด เพิ่มขึ้น 7.83 จุด หรือ 0.35% ดัชนี SET50 ปิดที่ 984.70 จุด เพิ่มขึ้น 3.53 จุด หรือ 0.36% ดัชนีตลาด mai ปิดที่ 579.75 จุด เพิ่มขึ้น 1.46 จุด หรือ 0.25%

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ดีในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาคที่เคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สหรัฐเดือน พ.ย.ขยายตัว 7.1% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 7.3% ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าและเงินบาทแข็งค่า

นอกจากนั้น กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มปิโตรเคมี ยังขึ้นมานำตลาดจากความคาดหวังจีนเตรียมเพิ่มนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมการทำงานด้านเศรษฐกิจส่วนกลาง (Central Economic Work Conference) พรุ่งนี้

แต่อย่างไรก็ตาม วันนี้การปรับตัวขึ้นของดัชนียังค่อนข้างจำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังรอติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมถึงการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ คาดตลาดยังมีโอกาสปรับขึ้นไปได้ต่อหลังจากวันนี้ฟื้นยังไม่มาก โดยประเมินแนวรับอยู่ที่ 1,625 จุด และแนวต้านที่ 1,640 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น