นายชูศักดิ์ วิวัฒน์วงศ์เกษม กรรมการผู้จัดการ บมจ.สตาร์ มันนี่ (SM) เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จปิดจองซื้อหุ้น IPO จำนวน 300 ล้านหุ้น หลังนักลงทุนให้ความสนใจล้นหลาม พร้อมเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันที่ 20 ธ.ค.นี้
โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวนประมาณ 583 ล้านบาท (หลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขายหลักทรัพย์) จะนำไปใช้ขยายธุรกิจการให้บริการสินเชื่อทุกประเภท ขยายสาขา รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย และ/หรือประกันชีวิต เป็นต้น จำนวนประมาณ 409 ล้านบาท ภายในปี 66-67 รวมทั้งใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมบางส่วนจากสถาบันการเงินประมาณ 146 ล้านบาท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการประมาณ 28 ล้านบาท ภายในปี 66
การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ จึงนับเป็นการยกระดับบริษัทฯ เข้าสู่มาตรฐานสากล เพิ่มความน่าเชื่อถือในด้านภาพลักษณ์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้าและคู่ค้า รวมถึงเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน สร้างความพร้อมของฐานเงินทุนเพื่อรองรับโอกาสทางธุรกิจ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนในการลงทุนหุ้น SM ในระยะยาว
นางศิริพร เหล่ารัตนกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า การจองซื้อหุ้น IPO ของ SM จำนวน 300 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.04 บาท กำหนดเปิดให้จองซื้อหุ้นไอพีโอ วันที่ 8-9 ธ.ค. และวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจองซื้อเข้ามาเกินกว่าจำนวนที่จัดสรร มองว่ามาจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ SM ทั้งในด้านผลการดำเนินงานและโอกาสการเติบโตในอนาคต ด้วยจุดเด่นของ SM มีทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญมากว่า 30 ปี โดดเด่นในด้านความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้า และผู้ใช้บริการในภาคตะวันออก ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจที่ได้นโยบายสนับสนุนการลงทุนจากภาครัฐในโครงการ EEC ทำให้มีการลงทุนและการเติบโตในจังหวัด ขณะที่ช่องทางสาขากระจายไปตามแหล่งชุมชน และมีการติดตามหนี้ด้วยหลักธรรมาภิบาล และการบริหารอัตราส่วน NPL ให้อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับอุตสาหกรรม
อีกทั้งการกำหนดราคาไอพีโอที่ 2.04 บาทต่อหุ้น คิดเป็น P/E ที่ประมาณ 17.25 เท่า ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม โดยเงินระดมทุนในครั้งนี้จะสนับสนุนให้ SM เพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการสินเชื่อทุกประเภท รวมถึงขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เพิ่มโอกาสในการสร้างฐานรายได้ที่มั่นคง ตลอดจนต้นทุนทางการเงินที่จะลดลง เพิ่มความสามารถในการทำกำไร สนับสนุนให้ SM เป็นอีกบริษัทที่น่าจับตามอง