นักวิเคราะห์เมย์แบงก์ ประเทศไทย และกสิกรไทย ประเมินหุ้น TRUE และ DTAC มีทิศทางเชิงบวก หลังจากศาลปกครองกลางยกคำร้องสภาองค์กรของผู้บริโภคที่ขอคุ้มครองชั่วคราว ระบุมติ กสทช. รับทราบการรวมธุรกิจทรู-ดีแทคชอบด้วยกฎหมาย หมดความกังวลเรื่องความล่าช้า พร้อมมองการควบรวมทรู-ดีแทค เดินหน้าต่อเนื่องตามแผนและกรอบระยะเวลาที่กำหนด คาดว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น โดยบริษัทใหม่จะสามารถจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในไตรมาสแรก ปี 2566
นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “การที่ศาลปกครองได้ยกคำร้องสภาองค์กรของผู้บริโภคที่ขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวระงับกระบวนการควบรวมทรู-ดีแทคนั้น เป็นไปตามความคาดหมาย ซึ่งส่งผลให้กระบวนการควบรวมเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งนี้ คาดว่าบริษัทใหม่จะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในช่วงไตรมาส 1 ปี 2566 พร้อมแนะนำซื้อทั้งหุ้น DTAC (ราคาเป้าหมายที่ 51.10 บาท) และหุ้น TRUE (ราคาเป้าหมายที่ 5.00 บาท) โดยราคาเป้าหมายหุ้นของ TRUE และ DTAC นี้ประเมินจากมูลค่าของบริษัทใหม่ซึ่งอยู่ที่ 8.33 บาทต่อหุ้น”
นายพิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์ นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ในที่สุดอุปสรรคด้านกฎหมายได้จบลงตามคาด เชื่อว่าหลังจากหมดความกังวลด้านกฎหมายที่อาจทำให้การควบรวมล่าช้าในครั้งนี้แล้ว จะทำให้ทิศทางราคาหุ้นต่อจากนี้เป็นบวก อีกทั้งยังเชื่อว่า synergy ที่จะเกิดขึ้นภายหลังการควบรวมบริษัทจะมีมูลค่าเป็นหลักแสนล้านบาท ทั้งในด้านรายได้ที่เพิ่มขึ้น และสามารถบริหารจัดการลดค่าใช้จ่ายทั้งในส่วนการดำเนินงาน (OPEX) และการลงทุน (CAPEX) ทำให้หุ้นของทั้ง TRUE และ DTAC อยู่ในจุดที่น่าสนใจในการลงทุน หลังจากที่ผันผวนและปรับตัวลงมาก่อนหน้านี้”