หุ้นไทยปิดตลาด -1.79 จุด โบรกฯชี้ ตลาดชะลอการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงก่อนเข้าสู่ช่วงหยุดยาว ตลอดจนความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจโลกถดถอย จึงเกิดแรงเทขายหุ้นออก แนะจับตาเฟดส่งสัญญาณในการชะลอขึ้นดอกเบี้ยปีหน้า และทยอยเก็บหุ้นเพื่อขายทำกำไรในสัปดาห์หน้า พร้อมประเมินแนวรับที่ 1615 จุด และ 1,610 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,627 จุดและ 1,630 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 8 ธ.ค.2565 ปรับตัวลดลง -1.79 จุด หรือ -0.11% โดยปิดตลาดที่ 1,620.49 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,657.31 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ดัชนี SET INDEX มีอาการซึมลงเล็กน้อย และปรับตัวเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,625.90 จุด ขณะเดียวกันก็ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,615.06 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 642 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 595 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 814 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +2,085.62 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า+346.81 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -2,041.07 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -391.37 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,473.01 ล้านบาท ปิดที่ 31.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
2.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,118.20 ล้านบาท ปิดที่ 28.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
3.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,109.83 ล้านบาท ปิดที่ 172.50 บาท ลดลง 3.50 บาท
4.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,733.66 ล้านบาท ปิดที่ 682.00 บาท ลดลง 12.00 บาท
5.BEM มูลค่าการซื้อขาย 1,081.25 ล้านบาท ปิดที่ 9.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.AEONTS ปิดที่ 172.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท หรือ 2.99%
2.JMT ปิดที่ 70.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 2.92%
3.SAWAD ปิดที่ 48.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 2.63%
4.SCC ปิดที่ 331.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 0.30%
5.DTAC ปิดที่ 42.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 1.80%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEP ปิดที่ 172.50 บาท ลดลง 3.50 บาทหรือ 1.99%
2.BH ปิดที่ 212.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 1.40%
3.EGCOปิดที่ 167.50 บาท ลดลง 2.00 บาทหรือ 1.18%
4.FORTH ปิดที่ 33.75 บาท ลดลง 1.25 บาทหรือ 3.57%
5.SCB ปิดที่ 103.00 บาท ลดลง 1.00 บาทหรือ 0.96%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,203.05 จุด ลดลง -2.23 จุด หรือ -0.10% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 977.47 จุด ลดลง -1.36 จุด หรือ -0.14% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 579.96 จุด เพิ่มขึ้น 4.13 จุด หรือ 0.72%
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์-รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ค่อนข้างซึมตัวลง โดยมีปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย และเป็นการชะลอลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวอีกครั้ง
นอกจากนี้ ตลาดฯ ยังรอติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการปรับน้ำหนักการลงทุนของ FTSE Rebalance รวมไปถึงการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สัปดาห์หน้าคาดว่าจะส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปี 66 ซึ่งจะทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่า และเงินบาทก็จะแข็งค่าขึ้น โดยให้น้ำหนัก 80-90% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ 0.50% ในการประชุมรอบนี้ ดังนั้น จึงแนะนำทยอยสะสมหุ้นเพื่อไปขายทำกำไรในสัปดาห์หน้า
ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดว่าดัชนีมีโอกาสรีบาวด์ หลังจากไม่ได้ลงไปจนหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,610 จุด พร้อมให้แนวรับใหม่ 1,615 และ 1,610 จุด และแนวต้านที่ 1,627-1,630 จุด
