หุ้นไทยปิดตลาด -10.69 จุด โบรกฯ เผยดัชนี SET INDEX แกว่งตัวในแดนลบรับแรงขายหุ้นกลุ่มและพลังงาน และอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากกังวลภาพรวมของเศรษฐกิจโลกที่อาจถดถอย นอกจากนี้นักลงทุนยังเทขายหุ้นออกเพื่อลดความเสี่ยงโดยรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) และนโยบายพรรคการเมืองของไทย ประเมินกรอบดัชนีวันพรุ่งนี้แนวรับที่ 1,616 - 1,611 จุด และแนวต้านที่ 1,640 และ 1,648 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 7 ธ.ค. 2565 ปรับตัวลดลง -10.69 จุด หรือ -0.65% โดยปิดตลาดที่ 1,622.28 จุด มูลค่าการซื้อขาย 55,955.83 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีแกว่งตัวแคบๆสลับขึ้นลงทั้งในแดนบวกและลบช่วงเช้า และปรับตัวจนกระทั้งปิดตลาดในช่วงบ่าย โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,636.15 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,621.01 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 437 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 537 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 1,102 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +1,409.86 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +490.07 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -1,018.17 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -881.76
ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,637.29 ล้านบาท ปิดที่ 32.25 บาท ลดลง 0.50 บาท
2.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,567.38 ล้านบาท ปิดที่ 176.00 บาท ลดลง 4.50 บาท
3.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,005.60 ล้านบาท ปิดที่ 694.00 บาท ลดลง 46.00 บาท
4.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,667.63 ล้านบาท ปิดที่ 64.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
5.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,484.59 ล้านบาท ปิดที่ 142.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1. AEONTS ปิดที่ 167.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาทหรือ 0.91%
2.ADVANC ปิดที่ 186.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาทหรือ 0.81%
3.CPALL ปิดที่ 64.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาทหรือ 1.57%
4.TISCO ปิดที่ 97.75 บาท เพิ่มขึ้น0.75 บาทหรือ 0.77%
5.RBF ปิดที่ 13.60 บาท เพิ่มขึ้น0.60บาทหรือ 4.62%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEP ปิดที่ 176.00 บาท ลดลง 4.50 บาท หรือ 2.49%
2.TOP ปิดที่ 54.25 บาท ลดลง1.50 บาท หรือ 2.69%
3.EA ปิดที่96.75 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 1.28%
4.DTAC ปิดที่ 41.75 บาท ลดลง 1.00 บาทหรือ 2.34%
5.BH ปิดที่ 215.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.46%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,205.28 จุด ลดลง -10.36 จุด หรือ -0.47% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 978.83 จุด ลดลง -4.94 จุด หรือ -0.50% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 575.83 จุด ลดลง -3.03 จุด หรือ -0.52%
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ไซด์เวย์ในทิศทางปรับลง โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลเศรษฐกิจโลกถดถอย ส่งผลให้มีแรงขายออกมาในกลุ่มพลังงานและอิเล็กทรอนิกส์
ขณะที่นักลงทุนยังคงรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า (13-14 ธ.ค.) รวมไปถึงนโยบายการเลือกตั้งของพรรคการเมืองของไทยที่ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากพรรคเพื่อไทยประกาศชูนโยบายหาเสียงด้วยค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทและเงินเดือนปริญญาตรีเริ่มต้น 25,000 บาท
ทั้งนี้ในวันพรุ่งนี้คาดว่าดัชนียังเคลื่อนไหวในกรอบ แนะกลยุทธ์การลงทุนแบบตั้งรับ โดยมองว่าทิศทางภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังเป็นบวกจากปัจจัยหนุนหลัก คือ แนวโน่มการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ของจีน พร้อมให้แนวรับ 1,616 และ 1,611 จุด แนวต้าน 1,640 และ 1,648 จุด