หุ้นไทยปิดตลาดร่วง -6.81 จุด โบรกฯ ชี้ตลาดกลับมากังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังดัชนีที่ใช้เป็นตัวบ่งชี้สภาวะทางเศรษฐกิจของภาคการผลิตและบริการ หรือ PMI ของภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐเดือน พ.ย.หดตัวลง แนะจับตาการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เดือน พ.ย.คืนนี้ ซึ่งจะส่งผลต่อภาพการลงทุนในสัปดาห์หน้า หากอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นอาจกดดันดัชนีตลาดหุ้นลงต่ออีก พร้อมประเมินแนวรับที่ 1,600 จุด และแนวต้าน 1,660 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 2 พ.ย.2565 ปรับตัวลดลง -6.81 จุด หรือ -0.41% โดยปิดตลาดที่ระดับ 1,641.63 จุด มูลค่าการซื้อขาย 53,751.05 ล้านบาท โดยภาพรวมการลงทุนวันนี้ ดัชนีแกว่งตัวและปรับตัวลงตามตลาดต่างประเทศ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,651.19 จุด ขณะเดียวกัน ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,639.13 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 432 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 534 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 1,093 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -5,168.59 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +3,568.98 ล้านบาท บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +945.34 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +654.27 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 3,409.09 ล้านบาท ปิดที่ 772.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท
2.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,570.73 ล้านบาท ปิดที่ 182.50 บาท ลดลง 3.50 บาท
3.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,589.01 ล้านบาท ปิดที่ 64.75 บาท ลดลง 1.00 บาท
4.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,403.86 ล้านบาท ปิดที่ 29.00 บาท ลดลง 0.25 บาท
5.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,365.43 ล้านบาท ปิดที่ 73.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SAWADปิดที่47.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 2.17%
2.RBFปิดที่13.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท หรือ 7.26%
3.AMATAปิดที่ 20.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท หรือ 1.51%
4.SPALIปิดที่24.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท หรือ 1.27%
5.TIDLORปิดที่ 28.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.88%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCC ปิดที่ 334.00 บาท ลดลง 5.00 บาท หรือ 1.47%
2.PTTEP ปิดที่ 182.50 บาท ลดลง 3.50บาท หรือ 1.88%
3.KBANKปิดที่ 142.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 1.04%
4.BBL ปิดที่143.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 1.03%
5.ADVANC ปิดที่188.50 บาท ลดลง 1.50บาท หรือ 0.79%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,222.33 จุด ลดลง -14.20 จุด หรือ -0.63% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 987.30 จุด ลดลง -7.06 จุด หรือ -0.71% ดัชนีตลาด mai ปิดที่ 582.39 จุด เพิ่มขึ้น 2.58 จุด หรือ 0.44%
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย (PI) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับลงตามตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียและดาวโจนส์ จากก่อนหน้านี้ปรับตัวขึ้นไปรับข่าวดีค่อนข้างมากแล้ว โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ชะลอลง วันนี้จึงมีแรงขายทำกำไรออกมา ประกอบกับนักลงทุนเริ่มกลับมากังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยมากขึ้น หลังจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐฯ เดือน พ.ย.หดตัวลง
ส่วนแนวโน้มสัปดาห์หน้า ต้องจับตาการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือน พ.ย.คืนนี้ โดยตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง จากที่เพิ่มขึ้น 261,000 ตำแหน่งในเดือน ต.ค. และอัตราการว่างงานเดือน พ.ย. ตลาดคาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 3.7% หากออกมาต่ำกว่าคาดจะเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่อง โดยประเมินกรอบการลงทุนแนวรับที่ 1,600 จุด และแนวต้านที่ 1,660 จุด