หุ้นไทยปิดตลาด -8.66 จุด โบรกชี้เป็นไปตามทิศทางของตลาดหุ้นต่างประเทศหลังตลาดกลับมากังวลในเรื่องตัวเลขอัตราเงินเฟ้อสหรัฐที่กลับมาพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง หลังสถาบัน ISM ของสหรัฐ เปิดเผยดัชนีภาคบริการของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 56.5 ในเดือน พ.ย. จากระดับ 54.4 ในเดือน ต.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 53.1 โดยดัชนีอยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการมองภาพรวมการลงทุนวันพรุ่งนี้ คาดยังคงแกว่งตัวต่อเนื่องประเมินแนวรับไว้ที่ 1,620 จุด และแนวต้าน 1,640 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 6 ธันวาคม 2565 ปรับตัวลดลง -8.66 จุด หรือ -0.53% โดยปิดตลาดที่ 1,632.97 จุด มูลค่าการซื้อขาย 62,673.23 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ปรับตัวเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวันตั้งแต่เปิดทำการซื้อขายในภาคเช้า โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,640.87 จุด ขณะเดียวกันก็ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,628.66 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 514 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 470 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 1,104 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -4,348.33 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +3,875.62 ล้านบาท บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +419.77 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +52.94 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,644.91 ล้านบาท ปิดที่ 180.50 บาท ลดลง 2.00 บาท
2.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,441.74 ล้านบาท ปิดที่ 142.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
3.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,304.00 ล้านบาท ปิดที่ 28.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
4.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,100.11 ล้านบาท ปิดที่ 740.00 บาท ลดลง 32.00 บาท
5.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,070.48 ล้านบาท ปิดที่ 185.00 บาท ลดลง 3.50 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.GPSC ปิดที่ 70.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาทหรือ 1.44%
2.EA ปิดที่ 98.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาทหรือ 1.03%
3.RATCH ปิดที่ 41.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาทหรือ 1.84%
4.SAWAD ปิดที่ 47.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 1.60%
5.BAM ปิดที่ 16.00บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาทหรือ 3.23%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCC ปิดที่ 330.00 บาท ลดลง 4.00 บาท หรือ 1.20%
2.ADVANC ปิดที่ 185.00 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือ 1.86 %
3.HANA ปิดที่ 52.0 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 4.59%
4.ORTH ปิดที่ 35.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 5.41%
5.BH ปิดที่ 216.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 0.92%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,215.64 จุด ลดลง -6.69 จุด หรือ -0.30% ดัชนี SET50 ปิดที่ 983.77 จุด ลดลง -3.53 จุด หรือ -0.36% ดัชนีตลาด mai ปิดที่ 578.86 จุด ลดลง -3.53 จุด หรือ -0.61%
นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้พักฐาน ตาม Sentiment ตลาดต่างประเทศ โดยมีปัจจัยกดดันจากความกังวลต่อเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง หลังสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยดัชนีภาคบริการของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 56.5 ในเดือน พ.ย. จากระดับ 54.4 ในเดือน ต.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 53.1 โดยดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ
ขณะเดียวกันในประเทศ ยังไม่มีปัจจัยใหม่ หลังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ดูเหมือนว่าจะไม่มีความคืบหน้าอะไร
ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ มองว่าตลาดยังคงแกว่งตัวในทิศทางขาลง แต่จะอยู่ในกรอบที่จำกัด จากความคาดหวังเชิงบวกต่อเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัว และหากมีความคืบหน้าการผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ของจีน ก็จะหนุนดัชนีฯ ให้อาจพลิกกลับมายืนอยู่ในแดนบวกได้ โดยประเมินแนวรับที่ 1,620 จุด และแนวต้าน 1,640 จุด