อสังหาฯ ญี่ปุ่นขนโปรเจกต์ยักษ์ "นิวเวิลด์ ลา พลูม นิเซโกะ รีสอร์ท" เจาะเศรษฐีคนไทยซื้อ หลังเงินเยนอ่อนค่าลงเทียบเงินบาท 13% วางเป้าขายช่วงโรดโชว์ในไทย 3 เดือนกว่า 10 ล้านดอลลาร์
นายทิม สเคพวิงตัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ริชมอนทส์ คริสตี้ส์ อินเตอร์เนชั่นแนล เรียลเอสเตท จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจที่ปรึกษาทางด้านการตลาดและการขายอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของโลก และบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์หรูในประเทศไทย กล่าวว่า การที่เงินสกุลเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินบาทไทย เป็นการอ่อนค่าลงมากที่สุดในรอบ 30 ปี โดยตัวเลขเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบเงินบาทไทยถึง 13% ขณะที่เงินเยนเมื่อเทียบกับสกุลดอลลาร์อ่อนค่าลงในรอบ 20 ปี หรืออ่อนลงไปแล้วถึง 24%
ดังนั้น จึงเป็นโอกาสทำให้ผู้ที่สนใจซื้อ หรือ ลงทุนอสังหาฯ ในญี่ปุ่นมีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น เป็นจังหวะดีให้คนไทยสามารถเป็นเจ้าของอสังหาฯ ที่ญี่ปุ่นได้ในราคาเหมาะสม แม้ว่าหลายคนยังมีความกังวลเรื่องความเสี่ยงเศรษฐกิจญี่ปุ่นซึ่้งยังมีอัตราการเติบโตในระดับต่ำ แต่เมื่อพิจารณาดี ญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่มีความมั่นคง ปลอดภัย เศรษฐกิจเติบโตไม่หวือหวา ทำให้ผลตอบแทนการลงทุนจึงมีความสม่ำเสมอ ไม่ผันผวนมาก เหมาะสำหรับการกระจายความเสี่ยงการลงทุนไปยังต่างประเทศ
ล่าสุด บริษัทฯ ได้รับการแต่งตั้งจากโครงการ "นิวเวิลด์ ลา พลูม นิเซโกะ รีสอร์ท" ซึ่งเป็นโครงการสกี รีสอร์ตหรูระดับ 5 ดาว มูลค่าโครงการ 12,000 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่เมืองนิเซโกะ จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เป็นตัวแทนบริหารการขายและการตลาดอย่างเป็นทางการเพียงรายเดียวในประเทศไทย และเป็นโครงการแรกที่บริษัทฯ ได้ขยายตลาดเข้าสู่อสังหาฯ ในประเทศญี่ปุ่น
นายเพียว ชิน ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ นิวเวิลด์ ลา พลูม นิเซโกะ รีสอร์ท มีผู้พัฒนาโครงการมาจากฮ่องกง มีผู้ถือหุ้นเป็นนักลงทุนชาวจีน กล่าวว่า ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นปีละ 20% ปรากฏตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวไทยเป็น 1 ใน 10 อันดับของนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนจังหวัดฮอกไกโดมากที่สุด โดยโครงการคาดจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2567
นายเปรม นารูลา ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท ริชมอนทส์ฯ กล่าวถึงโครงการนิวเวิลด์ ลา พลูม นิเซโกะ รีสอร์ท ว่า แบ่งเป็นส่วนของอาคารที่พักจำนวน 219 หลัง และวิลล่าแบบเอ็กซ์คลูซีฟ จำนวน 5 หลัง โดยบริษัทฯ ได้ออกแบบการขายเป็น 2 ส่วน คือ ซื้อเพื่อครอบครอง (ขายขาด) และเพื่อการลงทุน โดยคนไทยสามารถซื้อและถือครองเป็นเจ้าของได้ 100% ราคาเริ่มต้นที่ 17 ล้านบาท (66.5 ล้านเยน) สำหรับห้องสตูดิโอขนาดใหญ่ และแพงสุดอยู่ที่ 100 ล้านบาท (ยังไม่นับรวมเพนต์เฮาส์) โดยบริษัทจะเข้ามาทำตลาดเปิดขายในประเทศไทย ตั้งแต้วันที่ 22 พฤศจิกายน 65 สำหรับผู้ที่ซื้อเพื่อการลงทุน ซึ่งบริหารโดย New World Hotels & Resorts ซึ่งเป็นแบรนด์ภายใต้เครือ Rosewood การันตีผลตอบแทนระยะเวลา 3 ปี ขั้นต่ำ 5% และเจ้าของสามารถเข้าพักได้จำนวน 28 วัน ในรอบระยะเวลา 1 ปี
"ทั้งนี้ เป้าหมายในระยะ 3 เดือนแรกของการจัดงาน เราวางตัวเลขการขายประมาณ 10 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 10 ยูนิต และในช่วงปีใหม่จะมีการปรับขึ้นราคาอีกครั้งประมาณร้อยละ 5 หลังจากทำยอดขายในโครงการได้ถึงร้อยละ 30 แล้ว"