บมจ.สตอเรจ เอเชีย ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) เพื่อเสนอขายหุ้นเป็นการทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 36 ล้านหุ้น และเข้าซื้อขายในกระดาน LiVE Exchange (LiVEx) ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เป็นรายที่ 2 โดยมี บล.เอเชีย เวลท์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) และผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ (U/W)
บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการระดมทุนเพื่อการขยายสาขาของบริษัทฯ การเพิ่มทุนในบริษัท ไอ สโตร์ โก จำกัด และชำระหนี้เบิกเงินเกินบัญชีที่บริษัทมีอยู่กับธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาสุรวงศ์ รวมทั้งนำเงินเพิ่มทุนไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ที่จะต้องได้รับความเห็นชอบจากบริษัท ดับบลิวเอชเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด
สตอเรจ เอเชีย ดำเนินธุรกิจบริการให้เช่าห้องเก็บของหรือทรัพย์สินส่วนตัว (Self Storage) ระดับ Premium ของประเทศไทย นำเสนอทางเลือกของการจัดเก็บที่มีคุณภาพด้วยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาพัฒนาการให้บริการ ภายใต้เครื่องหมายการค้าแบรนด์ i-Store เพื่อช่วยแก้ปัญหาผู้คนที่อาศัยอยู่ในคอนโดฯ บ้าน หรือสำนักงานออฟฟิศที่ต้องการเพิ่มพื้นที่สำหรับจัดเก็บสิ่งของส่วนตัวทั้งในระยะสั้นและระยะยาวหรือจัดเก็บสิ่งของชั่วคราวในระหว่างที่มีการรีโนเวตบ้าน รวมไปถึงธุรกิจออนไลน์ E-commerce ที่ต้องการพื้นที่เก็บสินค้าขนาดเล็กใจกลางเมือง
บริษัทมีเป้าหมายการดำเนินธุรกิจที่จะขยายพื้นที่ให้บริการ Self Storage จากปัจจุบัน 2,204.33 ตารางเมตร ให้ขยายเพิ่มจนถึง 10,000 ตารางเมตร ทั้งในกรุงเทพฯ และในเมืองท่องเที่ยวหลัก เช่น ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ เป็นต้น และมีแผนจะขยายพื้นที่การให้บริการ i-StoreGo Door to Door Storage ให้สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าครอบคลุมทั่วประเทศไทย และนอกจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า
สินค้าและบริการของบริษัท
+ ธุรกิจบริการให้เช่า Self Storage สาขาสีลม (สาขาที่ 1) ภายใต้แบรนด์ "i-Store" บริการให้เช่าห้องเก็บทรัพย์สินหรือสิ่งของส่วนตัว โดยที่ลูกค้าเป็นผู้ดำเนินการจัดเก็บและเข้าออกห้องเก็บของด้วยตนเองได้ตลอด 24 ชั่วโมง ในการให้บริการเก็บของส่วนตัวของ i-Store แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ห้องอุณหภูมิปกติ และห้องควบคุมอุณหภูมิ (ห้องแอร์) ขนาดห้องให้บริการทั้งหมด 10 ขนาด เริ่มต้นที่ขนาดตั้งแต่ 0.5 ตารางเมตร (Luggage size) ในราคาค่าเช่าเริ่มต้นที่ 1,000 บาท ถึงขนาด 25 ตารางเมตร (Garage size) ราคาค่าเช่า 20,000 บาทต่อเดือน โดยปกติมีเงื่อนไขสัญญาเช่าใช้บริการขั้นต่ำ 1 เดือน
ปัจจุบันบริษัทได้เปิดให้บริการแล้ว 3 สาขา ดังนี้ สาขาที่ 1 สาขาสีลม ขนาดพื้นที่ให้บริการ Self Storage ประมาณ 175.50 ตารางเมตร สาขาสุขุมวิท 24 (สาขาที่ 2) ขนาดพื้นที่ให้บริการ Self Storage ประมาณ 1,166.91 ตารางเมตร และสาขาสุขุมวิท 71 (สาขาที่ 3) ขนาดพื้นที่ให้บริการ Self Storage 816 ตารางเมตร ซึ่งสาขานี้ทางบริษัทมีแผนที่จะนำทรัพย์สินของโครงการขายให้แก่ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะมีการเช่าอาคารกลับ (Lease back) เพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจภายหลังจากการขายทรัพย์สินต่อไป
+ ธุรกิจบริการให้เช่าห้องเก็บไวน์ส่วนตัว (Wine Storage) ภายใต้แบรนด์ "i-Store" ในการให้บริการให้เช่าห้องเพื่อจัดเก็บไวน์โดยเฉพาะ โดยที่ลูกค้าเป็นผู้ดำเนินการจัดเก็บและเข้าออกห้องเก็บไวน์ได้ด้วยตนเองตลอด 24 ชั่วโมง โดยห้องเก็บไวน์ของ i-Store มีระบบควบคุมความชื้น และระบบควบคุมอุณหภูมิที่ได้ตามมาตรฐานของการเก็บรักษาคุณภาพไวน์ อีกทั้งบริษัทมีระบบสำรองไฟฟ้าฉุกเฉิน (เครื่องกำเนิดไฟฟ้า) ในกรณีเกิดเหตุไฟฟ้าขัดข้อง โดยปัจจุบัน บริษัทมีห้องเก็บไวน์ให้บริการทั้งหมด 2 ขนาด คือ ขนาด 1 ตารางเมตร และ 2 ตารางเมตร ในเงื่อนไขสัญญาเช่าใช้บริการขั้นต่ำ 1 เดือน โดยบริษัทได้เปิดให้บริการที่สาขาสุขุมวิท 24 ซึ่งมีขนาดพื้นที่ให้บริการจัดเก็บไวน์ประมาณ 45.92 ตารางเมตร
+ ธุรกิจบริการให้เช่าพื้นที่ค้าปลีก และอาคารสำนักงาน ภายใต้โครงการ "SO24" สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจการเช่าพื้นที่ในโครงการของบริษัท เพื่อเป็นการสร้าง Eco System ให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในพื้นที่ และยังสามารถนำสินค้า หรือบริการของผู้ประกอบการแต่ละรายมาทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อส่งเสริมธุรกิจให้เติบโตไปด้วยกัน ปัจจุบัน มีผู้ประกอบการเช่าพื้นที่ ได้แก่ HQ ประกอบกิจการบริการให้เช่าพื้นที่สำนักงานในรูปแบบ Flexible office 685 ตารางเมตร Wine Pro ประกอบกิจการจัดจำหน่ายไวน์และอาหาร ทั้งในราคาปลีกและราคาส่ง 217 ตารางเมตร Food Panda เพื่อเป็นอาคารสำนักงาน โดยมีขนาดพื้นที่ทั้งหมด 200 ตารางเมตร
+ ธุรกิจบริการรับฝากสิ่งของส่วนตัวถึงบ้าน (Door to Door Storage) ภายใต้แบรนด์ "i-StoreGo" ในการให้บริการรับฝากสิ่งของส่วนตัวที่สามารถให้บริการลูกค้าได้ถึงบ้าน ผ่านระบบการจัดการออนไลน์ website : https://www.i-storego.com/ สำหรับลูกค้าที่ไม่ประสงค์เดินทางมายังสถานที่จัดเก็บ บริษัทจะเป็นผู้ดูแลเรื่องการขนย้ายและแพก และจัดเก็บรักษาสิ่งของของลูกค้าให้อยู่ในสภาพเดิมและพร้อมใช้งานเมื่อนำส่งคืนให้ลูกค้า โดยลูกค้าสามารถทำการเรียกคืนสิ่งของและนัดหมายกับเจ้าหน้าที่ผ่านบัญชีส่วนตัวได้ด้วยตนเอง โดยปัจจุบัน บริษัทเปิดให้บริการเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร การให้บริการแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1.BYITEMS คือ การรับฝากของเป็นกล่องหรือรายชิ้น เช่น เสื้อผ้า รองเท้า ตุ๊กตา จักรยาน ถุงกอล์ฟ กระเป๋าเดินทาง ฟูกที่นอน เป็นต้น ค่าบริการเริ่มต้นที่ 150 บาทต่อเดือน ภายใต้เงื่อนไขสัญญาบริการขั้นต่ำ 3 เดือน
2.BYSIZE คือ การรับฝากของเป็นขนาดของพื้นที่จัดเก็บ เริ่มต้นที่ขนาด 5 ลูกบาศก์เมตร จนถึงขนาด 40 ลูกบาศก์เมตร ค่าบริการเริ่มต้นที่ 16,500 บาท ภายใต้เงื่อนไขสัญญาบริการขั้นต่ำ 3 เดือน
+ ธุรกิจบริการออกแบบและติดตั้ง (Self Storage Design & Construction) บริษัทเป็นผู้ให้บริการแก่เจ้าของที่ดินที่มีพื้นที่และมีความต้องการติดตั้ง Storage ในพื้นที่ของตนเอง ซึ่งทางบริษัทมีเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการออกแบบ Self Storage ที่ให้คำแนะนำอย่างเหมาะสมและเป็นไปตามมาตรฐานการให้บริการ Self Storage
+ ธุรกิจบริการรับจ้างบริหารจัดการพื้นที่ Self Storage (Storage Management) บริษัทเป็นผู้ให้บริการรับจ้างบริหารจัดการพื้นที่ Self Storage โดยเจ้าของที่ดินเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างหรือปรับปรุงอาคารเพื่อให้บริการสำหรับ Self Storage และเป็นผู้ว่าจ้างให้ทางบริษัทเป็นผู้บริหารจัดการพื้นที่ดังกล่าวภายใต้มาตรฐานของแบรนด์ "i-Store"
+ ธุรกิจบริการติดตั้งและจำหน่ายระบบบริหารจัดการตู้สำหรับจัดเก็บสิ่งของ (License Unmanned Storage) บริษัทเป็นผู้ให้บริการติดตั้งและจำหน่ายระบบบริหารจัดการตู้สำหรับจัดเก็บสิ่งของดำเนินกิจการภายใต้แบรนด์ "i-Store" โดยที่เจ้าของโครงการคอนโดมิเนียม หรือนิติบุคคลอาคารชุดเป็นผู้ลงทุนซื้ออุปกรณ์ ตู้ Storage Hardware และ Software ของบริษัท เพื่อให้บริการเฉพาะลูกค้าหรือผู้อยู่อาศัยในโครงการ
ปัจจุบัน บริษัทมีทุนจดทะเบียน 128 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 256 ล้านหุ้น โดยเป็นทุนเรียกชำระแล้ว 110 ล้านบาท ขณะที่โครงสร้างผู้ถือหุ้น 3 อันดับแรก มีนายภักดี อนิวรรตน์ ถือหุ้นใหญ่ 40.59% ภายหลังเสนอขายหุ้นเป็นการทั่วไปครั้งแรก (IPO) จะลดสัดส่วนเหลือ 34.88% บริษัท ดับบลิวเอชเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 29.46% จะลดเหลือ 25.27% ทรัสต์เพื่อกิจการเงินร่วมลงทุน กองทุนร่วมลงทุนในกิจการ SMEs (กองย่อยกองที่สอง) 15.15% จะลดเหลือ 13.02%
ผลประกอบการของบริษัท ในปี 64 มีรายได้รวม 18.58 ล้านบาท และมีผลขาดทุน 8.79 แสนบาท ขณะที่งวดครึ่งปีแรกของปี 65 มีรายได้รวม 10.73 ล้านบาท และกำไร 16.55 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 8.64 ล้านบาท และกำไร 6.47 ล้านบาท
สำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 65 กำไรเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 10.08 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 155.70% และมีอัตรากำไรสุทธิ 159.73% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้รวมประมาณ 2.09 ล้านบาท และกำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 17.75 ล้านบาท เพราะในงวดก่อนของอาคารสุขุมวิท 24 ตึก B และสุขุมวิท 71 ยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง โดยก่อสร้างแล้วเสร็จในงวดนี้