ตลาดหลักทรัพย์ฯ วอนนักลงทุนเชื่อมั่นระบบ แจงกรณีหุ้น "มอร์ รีเทิร์น" เป็นเรื่องระหว่างโบรกฯ กับลูกค้า ยันขนาดธุรกรรมไม่กระทบภาพรวมตลาดหุ้น ยกเป็น "บทเรียน" หาทางป้องกันไม่ให้เกิดอีกในอนาคต
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ชี้แจงว่า กรณีหลักทรัพย์ บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE มีการซื้อขายที่ผิดปกตินั้นแม้จะมีเหตุการณ์ผิดปกติ แต่การชำระราคา และส่งมอบหลักทรัพย์ทุกหลักทรัพย์ ระหว่างบริษัทสมาชิกและสำนักหักบัญชี (TCH) ยังดำเนินการได้ปกติ ดังนั้น ขอให้ผู้ลงทุนมั่นใจว่าโบรกเกอร์ทุกรายยังให้บริการได้ และธุรกรรมดังกล่าวไม่ได้กระทบต่อภาพรวมตลาดหุ้นทั้งหมด
"มูลค่าการซื้อขายหุ้น MORE ที่เกิดขึ้นไม่ได้มาก และมาร์เกตแคปไม่ได้ใหญ่ อยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ขณะที่สัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อย (ฟรีโฟลต) อยู่ที่ 50% เทียบกับมาร์เกตแคปของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีอยู่ 20 ล้านล้านบาท และมูลค่าการซื้อขายต่อวันเฉลี่ยอยู่ที่ 1 แสนล้านบาท
ดังนั้น ผลกระทบต่อภาพรวมตลาดถือว่าไม่มาก ขณะเดียวกัน ความเชื่อมั่นของระบบ ระหว่างโบรกเกอร์กับ TCH ไม่มีปัญหา แต่ที่เป็นปัญหาอาจเป็นเรื่องระหว่างโบรกเกอร์กับลูกค้า" นายภากร กล่าว
นอกจากนี้ สถานะเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิของโบรกเกอร์ (NCR) และเงินกองทุนของ ตลท. ยังเพียงพอ ไม่ได้น่าเป็นห่วง
สำหรับการขึ้นเครื่องหมาย SP หุ้น MORE หรือการหยุดพักการซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าวนั้น ระยะเวลาสิ้นสุดทาง ตลท. จะพิจารณาแบบวันต่อวัน โดยหากไม่มีผลกระทบแล้วอาจจะพิจารณายกเลิก หลังจากที่ขึ้นเครื่องหมาย SP ในวันนี้ (14 พ.ย.)
"หลังจากที่เกิดกรณีดังกล่าวขึ้น เรามีความกังวลต่อเรื่องความเชื่อมั่นมากที่สุด จึงอยากขอให้ความเชื่อมั่นกับผู้ลงทุนทั่วโลกว่าความเข้มแข็งของโบรกเกอร์ไม่มีปัญหา หลังจากนี้ ตลท.จะหาเร่งหาวิธีปรับปรุงกระบวนการต่างๆ เพื่ออุดช่องโหว่ โดยนำเหตุการณ์นี้มาเป็นบทเรียนในการดำเนินการป้องกันในอนาคต" นายภากร กล่าว