บรรยากาศการซื้อขายหุ้นช่วงนี้คึกคักสดใส แต่ดัชนีหุ้นกลับไม่ไปไหน ถูกตรึงอยู่แถว 1,620-1,630 จุด เนื่องจากกองทุนในประเทศปักหลักขายหุ้น กลายเป็นแรงฉุดให้ดัชนีเดินหน้าต่อไปไม่ได้ไกล
ถ้ากองทุนไม่ขาย ดัชนีคงตีฝ่าแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,650 จุดไปได้แล้ว เพราะต่างชาติลุยซื้อหุ้นอย่างหนักและต่อเนื่อง
ปัจจัยสนับสนุนการฟื้นตัวของตลาดหุ้นมีอยู่หลายด้าน ทั้งการดีดตัวกลับของตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ การไหลบ่าของเงินทุนต่างชาติ และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยอย่างล้นหลาม
เพียงแต่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมารับข่าวระดับหนึ่งแล้ว จนนักลงทุนเริ่มกลัวความสูง ไม่มั่นใจว่าดัชนีจะทะลุ 1,650 จุดหรือไม่ จึงทยอยขายหุ้น โดยมีกองทุนในประเทศเป็นหัวหอกในการขาย และนักลงทุนในประเทศทั้ง 3 กลุ่ม พร้อมใจกันขาย จนต่างชาติลากหุ้นขึ้นไม่ไหว
ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบๆ แม้ในระหว่างชั่วโมงซื้อขายดัชนีพุ่งไปไกล บางวันเพิ่มขึ้นนับสิบจุด แต่ถูกแรงขายจนแผ่วลง และปิดบวกหรือลบไม่ถึง 1 จุดติดต่อกันหลายวัน
แม้ต่างชาติจะกลับมาไล่ซื้อหุ้น แต่เจอ 3 รุมหนึ่ง เจอกองทุน พอร์ตโบรกเกอร์ และรายย่อยพร้อมใจกันขายหุ้น จึงดึงหุ้นขึ้นไม่ไหว
กองทุนขายหุ้นมาตลอดนับจากต้นปีเดือนพฤศจิกายนจนสิ้นสุดวันที่ 7 พฤศจิกายน มียอดขายหุ้นสุทธิสะสมจำนวน 4.69 พันล้านบาท ส่วนยอดขายสะสมนับจากต้นปีมีจำนวน 1,44 แสนล้านบาท
ส่วนนักลงทุนต่างชาติแม้บางช่วงจะขาย แต่โดยรวมแล้วเป็นผู้ซื้อหุ้นรายใหญ่ และเป็นการกลับมาซื้อหุ้นครั้งแรกในรอบ 5 ปี โดยมียอดซื้อหุ้นสุทธิสะสมนับจากต้นปีจำนวน 1.71 แสนล้านบาท และยังไม่มีสัญญาณว่า จะเทขายหุ้นขนเงินกลับ
ข่าวร้ายที่กระทบตลาดหุ้นเริ่มจางหาย มีแต่ข่าวในเชิงบวก รวมทั้งการคาดหวังว่า จีนจะเปิดประเทศในต้นปีหน้า ซึ่งจะกระตุ้นการท่องเที่ยวให้คึกคักขึ้นอีก นอกจากนั้น กองหนุนต่างชาติยังปักหลักอยู่ในตลาดหุ้นไทย และมีแนวโน้มจะช้อนซื้อหุ้นต่อไป
โค้งสุดท้าย หรืออีกเดือนเศษของตลาดหุ้นไทยก่อนปิดฉากปี 2565 หุ้นจึงมีโอกาสแกว่งตัวขึ้น โดยหุ้นกลุ่มต่างๆ จะสลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นมาเป็นกลุ่มนำตลาด และมีความคาดหวังกันมากขึ้นว่า ดัชนีสิ้นปีนี้อาจจะไต่ขึ้นไปแตะระดับ 1,700 จุดได้
เพียงแต่ระยะสั้นยังตีฝ่า 1,650 จุดเท่านั้น เพราะแรงขายจากนักลงทุนในประเทศ ซึ่งมองว่าหุ้นขึ้นมาถึงจุดที่น่าทำกำไร จึงพร้อมใจกันเทหุ้นใส่มือต่างชาติ โดยเฉพาะกองทุนในประเทศ ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่ขวางทางการเดินสู่เป้าหมาย 1,650 จุด
ปกติช่วงปลายปีจะมีเงินจากกองทุนแอลทีเอฟ หรือกองทุนหุ้นระยะสั้นเข้ามาซื้อหุ้นประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาท แต่หลังจากปรับเงื่อนไขสิทธิพิเศษในการลดหย่อนภาษีจากการลงทุนในกองทุนแอลทีเอฟ แรงจูงใจในการลงทุนผ่านกองทุนก็ลดลง และเงินจากกองทุนที่จะเข้ามาซื้อหุ้นจึงมีไม่มาก
อย่างไรก็ตาม ปีนี้กองทุนขายหุ้นออกมาเยอะมาก และปลายปีอาจชะลอการขายลงก็ได้ ซึ่งจะช่วยให้ดัชนีมีสิทธิจะฝ่าด่าน 1,650 จุด
นักลงทุนรายย่อยไม่จำเป็นต้องรอขายที่ระดับ 1,650 จุด แต่ทยอยปล่อยของขายทำกำไรไปเรื่อยๆ
ราคาหุ้นที่ไต่ขึ้นมาระดับนี้ไม่ใช่จุดซื้อ แต่เป็นจุดขายทำกำไร หุ้นที่เก็บสะสมไว้ต้นทุนต่ำๆ ขนออกมาปล่อยให้หมด
ถือเงินสดไว้รอซื้อของถูกคืน เพราะปีหน้าเศรษฐกิจและตลาดหุ้นคงแย่กว่าปีนี้