"ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง" เปิดโรงงาน S.T.Food Marketing Co.,Ltd. ในเวียดนาม พร้อมเดินสายผลิตและดำเนินการค้าเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการไตรมาส 4 ปี 2565 ตั้งเป้าเป็นฐานการผลิตและศูนย์กระจายสินค้าสำคัญแบบครบวงจรในประเทศกลุ่ม CLMV และย่านเอเชีย ผู้บริหารเผยช่วยหนุนรายได้เพิ่มก้าวกระโดด ปักหมุดยอดขายในเวียดนามทะลุ 2,000 ล้านบาท ปี 2569
นายฐากร ชัยสถาพร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจต่างประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP เปิดเผยว่า การเปิดโรงงาน S.T.FOOD MARKETING ในเวียดนามจะช่วยสนับสนุนรายได้ และกำไรให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจะใช้เป็นฐานการผลิต และศูนย์กระจายสินค้าที่สำคัญไปยังต่างประเทศมากขึ้นในอนาคต โดยปัจจุบันสินค้าของบริษัทฯ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในเวียดนาม ที่ผ่านมามีการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งโรงงานตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ดังนั้นจึงเป็นทำเลที่เหมาะสม
สำหรับยอดขายผ่านตัวแทนจำหน่ายในเวียดนามช่วง 6 เดือนแรกปี 2565 อยู่ที่ 218 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมียอดขายอยู่ที่ 130 ล้านบาท มีสัดส่วนรายได้หลักมาจากขนมขบเคี้ยว 93% และกลุ่มสินค้าเครื่องดื่ม 7% ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตขึ้นได้เป็นอย่างดี และบริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายยอดขายในเวียดนามในปี 2569 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตมากถึง 7 เท่า ภายใน 5 ปี
โดยโรงงาน S.T.FOOD MARKETING ได้เริ่มเดินสายการผลิตครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา และเปิดการค้าเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการในไตรมาส 4 ปี 2565 โดยเริ่มผลิตขนมขึ้นรูป ขนมปังแท่ง ภายใต้เครื่องหมายการค้า “โลตัส” ซึ่งในปี 2566 บริษัทตั้งเป้าผลิตสินค้าภายใต้หมายการค้า "เบนโตะ" และ "เจเล่" ในไตรมาส 1 และไตรมาส 3 ตามลำดับ
"เรามีแผนจะใช้โรงงานดังกล่าวเป็นฐานการผลิตที่สำคัญแบบครบวงจร ซึ่งเรามองเห็นถึงศักยภาพการขยายโอกาสทางการตลาดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในเวียดนามมีความพร้อมในด้านของแรงงาน วัตถุดิบ และภูมิประเทศที่พร้อมจะเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตเพื่อป้อนสินค้า และส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ในกลุ่ม CLMV และรวมไปถึงประเทศอื่นๆ ในเอเชียอีกด้วย" นายฐากร กล่าว
ดังนั้น จึงนับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของ SNNP ที่ตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำทางการตลาดของขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มทั้งในและต่างประเทศได้เป็นอย่างดี ซึ่งบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าการลงทุนฐานการผลิตที่เวียดนาม จะช่วยสร้างผลตอบแทนและรายได้ที่เพิ่มขึ้นในระยะยาว