วันนี้ (27 ต.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนาประจำปี Bangkok Post Forum 2022 ในหัวข้อ Accelerating Thailand (เร่งเครื่องประเทศไทย) โดย นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าววิสัยทัศน์ต่อแนวทางการทำงานเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้า โดยหลักการสำคัญที่เป็นแนวทางการทำงานคือ ทำให้สำเร็จ (GET THINGS DONE) ทำสิ่งต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นจริงให้ได้ และเตรียมประเทศให้พร้อมสำหรับอนาคต เพื่อลูกหลาน และเพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้า เจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืนเป็นเส้นทางที่คนไทยจะต้องจับมือไปด้วยกัน รวมทั้งจับมือกับเพื่อนบ้านและสังคมโลกด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการสร้างความรุ่งเรืองให้กับคนไทย ในทุกระดับของสังคม เพื่อเดินหน้าไปสู่การปรับแก้สิ่งต่าง ๆ ที่เป็นประเด็นทางสังคม ทั้งเรื่องความยุติธรรมในสังคม และความเท่าเทียมในการเข้าถึงโอกาสทำมาหากิน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังเน้นย้ำว่า ไทยต้องเดินหน้าให้เร็วกว่าประเทศอื่นในการดึงเอาฐานการผลิตยานยนต์มาในประเทศไทย ให้ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้ารายใหม่ ๆ ที่สำคัญของโลกมาตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย และรักษาผู้ผลิตยานยนต์ปัจจุบันที่อยู่ในประเทศไทยอยู่แล้วให้ยังอยู่ในประเทศไทยต่อไป และทำให้โรงงานผลิตที่นี่เป็นฐานการผลิตที่สำคัญที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง รวมทั้งการทำให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยี เพื่อให้ซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้ามีความมั่นคงในระยะยาว
สำหรับการเกษตรสมัยใหม่เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงในระยะยาวของเกษตรกรนั้น นายกรัฐมนตรีผลักดันให้เร่งนำเทคโนโลยี งานวิจัย และนวัตกรรม มาใช้ในการปรับโครงสร้างการผลิต เพื่อให้เกิดผลผลิตมากขึ้นในพื้นที่เพาะปลูก มุ่งไปสู่เกษตรปลอดภัย ซึ่งเกษตรกรสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี Smart Farming ได้ทั่วถึงมากขึ้น เชื่อมโยงการทำงานร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ และเกษตรกร ในแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรสามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ และราคาสูงขึ้น
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่า ไทยได้เดินหน้ามาจนถึงจุดหมายการมีโครงสร้างพื้นฐานที่ครอบคลุมเป็นฐานที่แข็งแรง เพื่อให้ภาคเอกชนได้ร่วมกันสร้างประเทศต่อไป ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ หรือ start-up หวังว่าจะร่วมกันนำพาประเทศไปสู่อีกยุคหนึ่งของความรุ่งเรือง
นายกรัฐมนตรีกล่าววิสัยทัศน์ต่อแนวทางการทำงานเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้า โดยหลักการสำคัญที่เป็นแนวทางการทำงานคือ ทำให้สำเร็จ (GET THINGS DONE) ทำสิ่งต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นจริงให้ได้ และเตรียมประเทศให้พร้อมสำหรับอนาคต เพื่อลูกหลาน และเพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้า เจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืนเป็นเส้นทางที่คนไทยจะต้องจับมือไปด้วยกัน รวมทั้งจับมือกับเพื่อนบ้านและสังคมโลกด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการสร้างความรุ่งเรืองให้กับคนไทย ในทุกระดับของสังคม เพื่อเดินหน้าไปสู่การปรับแก้สิ่งต่าง ๆ ที่เป็นประเด็นทางสังคม ทั้งเรื่องความยุติธรรมในสังคม และความเท่าเทียมในการเข้าถึงโอกาสทำมาหากิน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังเน้นย้ำว่า ไทยต้องเดินหน้าให้เร็วกว่าประเทศอื่นในการดึงเอาฐานการผลิตยานยนต์มาในประเทศไทย ให้ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้ารายใหม่ ๆ ที่สำคัญของโลกมาตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย และรักษาผู้ผลิตยานยนต์ปัจจุบันที่อยู่ในประเทศไทยอยู่แล้วให้ยังอยู่ในประเทศไทยต่อไป และทำให้โรงงานผลิตที่นี่เป็นฐานการผลิตที่สำคัญที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง รวมทั้งการทำให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยี เพื่อให้ซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้ามีความมั่นคงในระยะยาว
สำหรับการเกษตรสมัยใหม่เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงในระยะยาวของเกษตรกรนั้น นายกรัฐมนตรีผลักดันให้เร่งนำเทคโนโลยี งานวิจัย และนวัตกรรม มาใช้ในการปรับโครงสร้างการผลิต เพื่อให้เกิดผลผลิตมากขึ้นในพื้นที่เพาะปลูก มุ่งไปสู่เกษตรปลอดภัย ซึ่งเกษตรกรสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี Smart Farming ได้ทั่วถึงมากขึ้น เชื่อมโยงการทำงานร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ และเกษตรกร ในแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรสามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ และราคาสูงขึ้น
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่า ไทยได้เดินหน้ามาจนถึงจุดหมายการมีโครงสร้างพื้นฐานที่ครอบคลุมเป็นฐานที่แข็งแรง เพื่อให้ภาคเอกชนได้ร่วมกันสร้างประเทศต่อไป ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ หรือ start-up หวังว่าจะร่วมกันนำพาประเทศไปสู่อีกยุคหนึ่งของความรุ่งเรือง