SME D Bank จับมือไปรษณีย์ไทย เปิดตัว “สินเชื่อ COD ไปรษณีย์ไทย” เตรียมวงเงิน 300 ล้านบาท เจาะกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ชูจุดเด่นกู้ง่าย รับเงินทันใจ ช่วยเสริมสภาพคล่องบริหารธุรกิจได้สะดวก ไม่ต้องใช้เอกสาร ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ หรือบุคคลค้ำประกัน วงเงินกู้สูงสุด 3 แสนบาทต่อราย
น ส.นารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า การค้าผ่านออนไลน์ด้วยวิธีชำระเงินปลายทาง หรือ Cash on Delivery (COD) กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง เพราะช่วยให้ลูกค้าเพิ่มความเชื่อมั่น ตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น และยังช่วยสร้างโอกาสให้ผู้ค้าขยายหาลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ไม่ชอบจ่ายเงินออนไลน์ด้วย
ดังนั้น SME D Bank จึงร่วมกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จํากัด เปิดตัว “สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการค้าขายผ่าน Cash on Delivery (COD) ไปรษณีย์ไทย” หรือ “สินเชื่อ COD ไปรษณีย์ไทย” วงเงิน 300 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีร้านค้าออนไลน์ได้รับเงินทุนนำไปเสริมสภาพคล่อง สามารถบริหารจัดการธุรกิจผ่านระบบ COD ได้เหมาะสม ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขาย สร้างรายได้เติบโต
ทั้งนี้ จุดเด่นเปิดกว้างกู้ได้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล วงเงินกู้สูงสุด 300,000 บาทต่อราย ดอกเบี้ยเงินกู้แบบลดต้นลดดอก คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำเริ่มต้น 1.05% ต่อเดือนเท่านั้น ที่สำคัญ กู้ได้ง่าย รับเงินรวดเร็ว เพียงสมัครง่ายผ่าน Wallet@POST และมียอดขายผ่าน COD ไปรษณีย์ไทย โดยไม่ต้องใช้เอกสาร ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ หรือบุคคลค้ำประกัน เปิดรับคำขอสินเชื่อตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มิ.ย.66 หรือกว่าจะเต็มวงเงิน แถมจัดโปรโมชันพิเศษผู้ได้รับอนุมัติสินเชื่อ 300 ท่านแรก รับฟรี Gift Voucher LOTUS’s มูลค่า 300 บาท
นอกจากนั้น SME D Bank ยังมอบบริการ “การพัฒนา” ควบคู่ด้วย ผ่านโครงการ “SME D Coach” โดยโค้ชมืออาชีพให้คำปรึกษาธุรกิจฟรี โดยเฉพาะด้านการตลาดสมัยใหม่ ช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์สามารถวางแผนทำการตลาดออนไลน์เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่สนใจใช้บริการ “สินเชื่อ COD ไปรษณีย์ไทย” และงานพัฒนาจาก SME D Bank แจ้งความประสงค์ได้ผ่านออนไลน์ เช่น เว็บไซต์ https://www.smebank.co.th/ , LINE Official Account : SME Development Bank เป็นต้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1357
นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทยนับเป็นหน่วยงานขนส่งของชาติที่ให้บริการที่หลากหลายแก่ลูกค้าทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ประกอบการธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ใช้บริการขนส่งเป็นหลักและมีการทำธุรกรรมการเงินผ่านแอปพลิเคชัน Wallet@POST ซึ่งส่วนใหญ่ใช้บริการเก็บเงินปลายทาง (Cash on Delivery : COD) เป็นหลัก และกลุ่มพ่อค้าแม่ค้านี้เป็นกลุ่มที่มีความต้องการเงินทุนหมุนเวียนในการทำธุรกิจ แต่การยื่นกู้ขอสินเชื่อทำได้ยาก เนื่องจากอาจจะมีหลักฐานแสดงสถานะทางการเงินที่ไม่ครบถ้วนตามเงื่อนไขในการอนุมัติสินเชื่อ
ดังนั้น เพื่อเป็นการสนับสนุนการทำธุรกิจของผู้ประกอบการรายย่อย ไปรษณีย์ไทยจึงได้ร่วมกับธนาคารและสถาบันการเงินหลายแห่ง เป็นช่องทางให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีความน่าเชื่อถือ มีแหล่งที่มาที่ตรวจสอบได้ รวมทั้งมีขั้นตอนในการยื่นขอสินเชื่อที่สะดวก รวดเร็ว ครั้งนี้จึงได้จับมือกับ SME D Bank ในการให้บริการ “สินเชื่อ COD ไปรษณีย์ไทย” โดยเฉพาะกับกลุ่มที่มียอดการใช้บริการ COD ต่อเนื่อง ซึ่งจะนำข้อมูลเหล่านี้มาเป็นเกณฑ์วิเคราะห์ในการให้สินเชื่อ ถือเป็นการอำนวยความสะดวกขั้นสุดให้แก่ผู้ใช้บริการ COD ไปรษณีย์ไทย
ทั้งนี้ บริการ COD มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยในปี 2565 มีปริมาณชิ้นงาน COD เติบโตรวมกว่า 25% และคาดว่าปลายปีนี้จะสูงเพิ่มขึ้นอีกในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่มีปริมาณการซื้อของขวัญส่งให้กันเป็นจำนวนมาก