อีกไม่นานนี้ผู้ที่ต้องการเทรดคริปโตในสิงคโปร์อาจต้องเข้ารับการทดสอบก่อน และยังห้ามไม่ให้ใช้บัตรเครดิตหรือการกู้ยืมรูปแบบอื่นๆ เพื่อซื้อขายสกุลเงินดิจิตอล ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงความเสี่ยงจากสินทรัพย์เสมือนที่มีความผันผวนสูงเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนรายย่อยที่ถูกมอมเมาด้วยเรื่องราวความร่ำรวยติดจรวดจากการเทรดคริปโต
ที่ผ่านมา สิงคโปร์ซึ่งถือเป็นฮับการเงินแห่งเอเชีย ดำเนินการอย่างระมัดระวังเพื่อขยายตลาดสินทรัพย์ดิจิตอล ควบคู่กับการเตือนถึงความเสี่ยงจากการเทรดเหรียญดิจิตอล
ธนาคารกลางสิงคโปร์ (Monetary Authority of Singapore – MAS) แถลงเมื่อวันพุธ (26) ระหว่างการเปิดเผยข้อเสนอใหม่เพื่อปกป้องนักลงทุนว่า การซื้อขายคริปโตมีความเสี่ยงสูงและไม่เหมาะสำหรับประชาชนทั่วไป อย่างไรก็ตาม คริปโตมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิตอลในวงกว้าง และเป็นไปไม่ได้ที่จะแบนสกุลเงินดิจิตอล
ภายใต้แผนการนี้ซึ่งจะเปิดให้ภาคประชาชนตรวจสอบจนถึงวันที่ 21 ธันวาคมก่อนบังคับใช้เป็นกฎหมาย MAS จะกำหนดให้ผู้ให้บริการคริปโตดำเนินการอย่างโปร่งใสมากขึ้นด้วยการแจ้งให้ลูกค้ารับรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงเพื่อให้สามารถตัดสินใจโดยอิงกับข้อมูลมากขึ้น และป้องกันไม่ให้ลูกค้ายอมรับความเสี่ยงสูงกว่าที่ต้องการหรือเต็มใจ หรือเกินกำลังที่จะรับผิดชอบได้
ผู้ที่ต้องการลงทุนในคริปโตยังต้องเข้ารับการทดสอบเพื่อประเมินความเข้าใจในความเสี่ยงก่อนอนุญาตให้ซื้อขายคริปโต นอกจากนั้น MAS ยังห้ามใช้บัตรเครดิตหรือแอปการชำระเงินต่างๆ เพื่อซื้อคริปโต
ทั้งนี้ หากผู้ทดสอบตอบคำถามไม่ถูกต้อง ผู้ให้บริการสามารถนำเสนอเนื้อหาความรู้เพื่อให้ลูกค้ารับรู้และเข้าใจความเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งเนื้อหาเหล่านั้นไม่ควรจำกัดเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับคำถามที่ลูกค้าตอบผิดเท่านั้น
นอกจากนั้น MAS ยังไม่อนุญาตให้ผู้ให้บริการเสนอมาตรการจูงใจเพื่อให้ลูกค้าลงทุนในคริปโต เช่น ด้วยการแจกโทเคนหรือของกำนัลอื่นๆ อีกทั้งยังห้ามปล่อยกู้เพื่อให้ลูกค้านำไปซื้อคริปโต รวมถึงห้ามใช้อินฟลูเอนเซอร์เพื่อดึงดูดลูกค้า และผู้ให้บริการยังต้องปฏิบัติตามมาตรฐานบางอย่างเกี่ยวกับวิธีทำธุรกิจอย่างเคร่งครัด
ปัจจุบัน ทั่วโลกกำลังผลักดันให้กำหนดกฎระเบียบควบคุมคริปโตหลังตลาดผันผวนรุนแรง และบริษัทชื่อดังหลายแห่งล้มละลาย ซึ่งบางแห่งมีฐานอยู่ในแดนลอดช่องและส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงว่าที่ฮับคริปโตของสิงคโปร์
ยกตัวอย่างเช่นเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทรี แอร์โรว์ส แคปิตอล กองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่เน้นลงทุนในคริปโตที่ตั้งอยู่ในสิงคโปร์ ต้องอยู่ภายใต้กระบวนการจัดการทรัพย์สินชั่วคราว
โด ควอน ผู้ก่อตั้งคริปโตเทอร์ราที่เป็นคนเกาหลีใต้และปัจจุบันเป็นผู้หลบหนีคดี เคยอยู่ในสิงคโปร์มาก่อนเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม แม้มีความเสี่ยง แต่สกุลเงินดิจิตอลยังคงดึงดูดความสนใจของนักลงทุนจำนวนมากจากกระแสข่าวที่ว่า ราคาคริปโตขึ้นแรงและเร็ว รวมถึงการมีอินฟลูเอนเซอร์ช่วยโปรโมท
กระนั้น ต้องไม่ลืมว่า คริปโตไม่มีสินทรัพย์ในโลกจริงรองรับ ทำให้เสี่ยงที่ราคาจะแกว่งแรง และการซื้อขายคริปโตเป็นการลงทุนที่มีการเก็งกำไรสูงเนื่องจากปัจจัยที่กำหนดการขึ้นลงของราคาคืออุปสงค์และอุปทานในตลาดล้วนๆ