JKN แรงต่อเนื่อง ดีดทำนิวไฮรอบ 4 เดือน หลังประกาศซื้อลิขสิทธิ์ Miss Universe ด้านกูรูมองบวก เหตุช่วยต่อยอดธุรกิจ แถมสร้างรายได้อีกหลายทางจากการประกวดนางงาม ประเมินผลงาน H2/65 กลับเข้าสู่ช่วงฟื้นตัวรอบใหม่ ดันกำไรปี 66 พลิกโตแรง แถมยังมีอัปไซด์จากดีล MUO แนะนำซื้อ ด้าน "บิ๊ก JKN" เผยเตรียมเปิดตัวธุรกิจใหม่ ‘MU Lifestyle’ ภายใต้แบรนด์ Miss Universe แย้มประเดิมออกโปรดักต์ใหม่ น้ำดื่มผสมวิตามิน-สินค้าแฟชั่นต่างๆ หนุนการเติบโตในตลาดภูมิภาคเอเชีย
ราคาหุ้นนิวไฮรอบ 4 เดือน หลังซื้อ MUO
ผู้สื่อข่าวรายงาน ราคาหุ้น บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป (JKN) วานนี้ (27 ต.ค.) ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นทันทีที่เปิดการซื้อขาย และดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุด หรือนิวไฮในรอบ 4 เดือน ที่ 5.70 บาท เพิ่มขึ้น 1.24 บาท ก่อนจะปรับลดลงเล็กน้อย มาปิดตลาดที่ 5.60 บาท เพิ่มขึ้น 1.14 บาท หรือ 25.56% มูลค่าการซื้อขาย 1.5 พันล้านบาท
สาเหตุที่คาดว่าราคาหุ้น JKN ปรับตัวขึ้นทำนิวไฮรอบ 4 เดือน เนื่องจากการแถลงข่าวเข้าถือครองธุรกิจองค์กรนางงามจักรวาล หรือ Miss Universe Organization (MUO) จาก Endeavor Group Holdings, Inc. ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น 100% ของบริษัท IMG Worldwide, LLC ที่เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ Miss Universe เมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา โดย JKN จะเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวทั้งหมด ซึ่งการทำธุรกรรมดังกล่าวมีมูลค่าราว 550 ล้านบาท และมีสัญญาลิขสิทธิ์อีกไม่เกิน 250 ล้านบาท รวมมูลค่าไม่เกิน 800 ล้านบาท ทั้งนี้ เงินทุนในการทำธุรกรรมดังกล่าวมาจากเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการของ JKN
หยวนต้ามีมุมมองบวกหลังซื้อ MUO ชี้ผลงานผ่านจุดต่ำสุดแล้ว
บทวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า มีมุมมองเชิงบวกต่อดีลดังกล่าวของ JKN เพราะจะเป็นการพลิกโฉมธุรกิจให้ JKN โดย MUO ถือเป็นองค์กรระดับโลกที่มีอายุกว่า 71 ปี และเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคทั่วโลกที่ติดตามการประกวดนางงามจักรวาลที่มีผู้รับชมมากกว่า 500 ล้านคนทั่วโลก
การเข้าซื้อ MOU ของ JKN คาดว่าจะทำให้เกิด Synergy ทางธุรกิจกับบริษัทเดิม โดยเฉพาะธุรกิจการขายสินค้า ซึ่ง JKN มีแผนนำแบรนด์ Miss Universe มาช่วยต่อยอดเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ Commerce ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างของบริษัทฯ ทั้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องดื่ม และความงาม เป็นต้น
นอกจากนี้ JKN ยังมีแผนสร้างรายได้จากธุรกิจ MUO อีก 9 ช่องทาง ประกอบด้วย
1.Franchise Fee รายได้จากการอนุญาตสิทธิให้สิทธิประเทศต่างๆ จัดประกวดนางงาม
2.Hosting Fee รายได้จากการอนุญาตให้สิทธิประเทศต่างๆ เป็นเจ้าภาพ
3.Production Fee รายได้จากการรับจ้างผลิตงานประกวดแต่ละปี
4.Sponsorship Fee รายได้จากผู้สนับสนุนหลัก
5.Merchandising & Licensing Fee รายได้จากการจำหน่าย หรือให้สิทธิผลิตภัณฑ์แบรนด์ MUO
6.Broadcast Fee รายได้จากการให้สถานีโทรทัศน์ทั่วโลกถ่ายทอดสดการประกวด
7.Program & Format Fee รายได้ผ่านรายการ Road to the Universe
8.Talent Management Fee รายได้จากการบริหารศิลปิน จากผู้ชนะการประกวด
9.Ticket Sales รายได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชมการประกวดทุกแพลตฟอร์มการรับชม
คาดกำไรปี 66 โต 25% แนะนำซื้อ
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มองว่า ผลการดำเนินงานของ JKN ได้ผ่านจุดต่ำสุดในช่วงครึ่งแรกของปี 65 ไปแล้ว โดยประเมินว่าผลการดำเนินงานของ JKN จะกลับเข้าสู่การเติบโตรอบใหม่ในช่วงครึ่งหลังของปี 65 สะท้อนจากยอดขายธุรกิจขายสินค้าเพิ่มขึ้นครอบคลุมต้นทุนค่าการตลาด ขณะที่ธุรกิจทีวีดิจิทัลจะได้รับปัจจัยหนุนผลการดำเนินงานจากการปรับผังรายการใหม่ และเม็ดเงินโฆษณาฟื้นตัว หลังการแพร่ระบาดโควิด-19 ลดความรุนแรงลง
ทั้งนี้ ประเมินกำไรสุทธิปี 66 ของ JKN ไว้ที่ 214 ล้านบาท เติบโตขึ้น 25% จากปีก่อน โดยมีปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของทั้งธุรกิจโฆษณา และธุรกิจขายสินค้าของบริษัท หลังการแพร่ระบาดโควิด-19 ลดความรุนแรงลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ประมาณการกำไรสุทธิดังกล่าวยังมีอัปไซด์จากการซื้อ MUO ที่ยังไม่ถูกรวมไว้ด้วย แนะนำซื้อ ราคาเหมาะสม 5.70 บาท
JKN เล็งเปิดตัวธุรกิจใหม่ ‘MU Lifestyle’ ต่อยอดธุรกิจคอนเทนต์
นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป (JKN) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดตัวซูเปอร์โปรดักต์ภายใต้ธุรกิจใหม่ "MU Lifestyle" เพื่อนำจุดแข็งของ Miss Universe มาต่อยอดแบรนด์สู่บริษัทคอนเทนต์เชิงพาณิชย์อย่างเต็มตัว ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะมีโปรดักต์ใหม่ออกมาวางจำหน่าย เช่น น้ำดื่มที่ผสมวิตามินและสินค้าแฟชั่นอื่นๆ รวมถึงผู้รับสิทธิในการดำเนินธุรกิจตามระบบที่เจ้าของสิทธิได้จัดเตรียมไว้ รวมทั้งได้ใช้ชื่อทางการค้า เครื่องหมายการค้าเดียวกัน โดยที่ต้องจ่ายค่าตอบแทนในการให้สิทธิ และจ่ายค่าตอบแทนตามผลประกอบการ (Franchisee)
ปัจจุบัน มีแฟรนไชซีติดต่อเข้ามาเพราะสนใจอยากร่วมลงทุนกับบริษัทในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น เครื่องบินเจ็ต เพนต์เฮาส์ โรงเรียนสอนนางงาม สปา และโรงแรม เป็นต้น โดย JKN มีความพร้อมทั้งแบรนด์คอนซูเมอร์โปรดักต์ โรงงาน และช่องทางการขายทุกช่องทาง โดยเฉพาะการมีพันธมิตรอย่างฮุนไดโฮม ช็อปปิ้ง เน็ตเวิร์คคอร์ปอเรชั่น ซึ่งถือว่าเป็นอีโคซิสเต็มของ JKN ที่มีความพร้อมอยู่แล้วในการนำ Miss Universe เข้ามาเสริมพอร์ต ส่วนรายละเอียดและความคืบหน้าที่ชัดเจนจะแจ้งให้ทราบในอนาคตต่อไป
ขณะที่รายได้จากกลุ่ม Miss Universe พบว่าปกติในช่วงก่อนเกิดโควิด-19 จะมีรายได้รวมประมาณ 1,000 ล้านบาท และรายได้ของการจัดประกวดของแต่ละประเทศจะอยู่ที่ 400-500 ล้านบาท ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงเจ้าของลิขสิทธิ์ในครั้งนี้จะส่งผลต่อ portfolio ของบริษัททั้งในด้านการโทรทัศน์และการค้าคอนเทนต์เพื่อความบันเทิงและการจัดจำหน่ายสินค้าสำหรับผู้บริโภค ซึ่งถือเป็นการต่อยอดวิสัยทัศน์และเสริมความแข็งแกร่งให้องค์กรนางงามจักรวาล และแบรนด์ Miss Universe ให้มีความน่าสนใจ
นอกจากนี้ ยังพร้อมเข้าถึงผู้คนได้หลากหลายมากขึ้นผ่านการสร้างธุรกิจใหม่เพื่อต่อยอดการเติบโตทั้งในตลาดที่มีความสำคัญและตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตสูงในอนาคต รวมไปถึงตลาดในภูมิภาคเอเชียด้วย
อย่างไรก็ตาม มองว่า MISS UNIVERSE จะไม่ใช่แค่ประกวดนางงามเท่านั้น แต่จะช่วยต่อยอดธุรกิจในเครือของ JKN พร้อมทั้งพัฒนาธุรกิจให้มีความมั่นคงและยั่งยืนด้วยความสามารถในการเข้าถึงผู้คนกว่า 165 ประเทศทั่วโลก และมีผู้รับชมกว่า 500 ล้านคนในแต่ละปี
