xs
xsm
sm
md
lg

Mark หงอย Meta ขาดทุนยับ 3.7 พันล้านดอลลาร์ หลังเปิดงบ Q3/65 - Metaverse ตัวละลายทรัพย์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



Meta บริษัทโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Facebook , Instagram และ WhatsApp รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 3/2565 ขาดทุนยับเยินกว่า 3.7 พันล้านดอลลาร์ แม้ว่า Mark Zuckerberg CEO และผู้ก่อตั้งจะพยายามปรับรูปแบบแพลทฟอร์มเพื่อสู้กับคู่แข่งที่มาแรงอย่าง Tiktok จากประเทศจีน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผล เพราะจากการออกมาทักท้วงของผู้ถือหุ้นเมื่อไม่นานมานี้ว่าขอให้เขาหยุดล้างผลาญเงินอย่างไร้ประโยชน์ไปกับ Metaverse เพราะผลสะท้อนกลับมามีแต่ความสูญเปล่าและไม่คุ้มค่า โดยดูผลลัพธ์ได้จากผลประกอบการที่ขาดทุน และหากยังดันทุรังต่อไป นักวิเคราะห์มองว่าอาจขาดทุนเพิ่มมากขึ้นในอีกในปี 2566

จากการเปิดเผยของ coindesk ซึ่งระบุถึงการประกาศของ Meta Platforms (FB) ที่ได้รายงานผลประกอบการในไตรมาส 3 ซึ่งมีเพียง 285 ล้านดอลลาร์ในแผนก Facebook Reality Labs (FRL) โดยประกอบด้วยการดำเนินการเสริมและ Metaverse เป็นหลัก ขณะที่ตามรายงานผลประกอบการที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ ซึ่งรายรับที่เปิดเผยออกมา ถือว่าต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 406 ล้านดอลลาร์ และลดลงจาก 452 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สอง

อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้ว FRL มีผลขาดทุนกว่า 3.7 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้ โดยมีผลการขาดทุนที่เพิ่มขึ้นจาก 2.8 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สอง

นอกจากนี้บริษัทยังกล่าวในการแถลงข่าวอีกว่า "ประเมินว่าผลขาดทุนจากการดำเนินงานของ FRL ในปี 2566 จะมีนัยสำคัญเมื่อเทียบเป็นรายปีภายในปี 2566 โดยคาดว่าจะเร่งพัฒนาการลงทุนของ Reality Labs เพื่อให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายในการเพิ่มรายได้เพื่อลดการสูญเสียที่เกิดขึ้น จากการดำเนินงานของบริษัทโดยรวมในระยะยาว"

ขณะที่ในการประชุมทางโทรศัพท์ของบริษัทเมื่อวันพุธที่ผ่านมา Mark Zuckerberg CEO ของ META ยังคงมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับ metaverse แม้ว่าเขาจะรับทราบถึงความกังวลเกี่ยวกับทิศทางของ Meta เขาเสริมว่ามันจะเป็น "ความผิดพลาด" ที่จะไม่เน้นที่ metaverse และเห็นว่ามันจะมีผลกระทบอย่างมากในอนาคต เขายังมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับชุดหูฟัง Quest Pro VR ของ Meta โดยเสริมว่า ในอนาคตการทำงานของผู้คนจำนวนมากจะสะดวกรวดเร็วมากขึ้น ผ่านโลกเสมือน หรือ metaverse

อย่างไรก็ตามล่าสุดหุ้นของ Meta ตกลงมากกว่า -15% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการในวันพุธ ซึ่งโดยรวมแล้วในปีนี้หุ้นของ Meta ปรับตัวลดลงมาแล้วกว่า -60%

ทั้งนี้ที่ผ่านมา Meta เผชิญกับการเรียกร้องของนักลงทุนเพื่อลดการใช้จ่ายใน metaverse เนื่องจากจำนวนการเติบโตของผู้ใช้ที่ลดลงและรายได้จากผู้ซื้อที่จ่ายด้านโฆษณาให้บริษัทลดลง ทำให้ Meta รายงานถึงการสูญเสียรายได้ไปกว่า 10.2 พันล้านดอลลาร์ จากรายรับ 2.3 พันล้านดอลลาร์สำหรับ FRL ในปี 2564 และ ในทางกลับกัน Mark Zuckerberg CEO Meta ได้โต้ตอบไปยังนักลงทุนและผู้ถือหุ้นของบริษัทว่ายังคงที่จะมุ่งมั่นใน อัดฉีดงบประมาณเพิ่มมากขึ้นเพื่อพัฒนาโครงการ metaverse ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยมองว่าเป็นแรงผลักดันที่สำคัญต่อการเติบโตในอนาคต

สำหรับบริษัทโดยรวมแล้ว Meta รายงานผลประกอบการรายไตรมาสที่ปรับแล้วต่อหุ้นสำหรับไตรมาสที่ 3 ที่ 1.64 ดอลลาร์ ขาดประมาณการฉันทามติของนักวิเคราะห์ที่ 1.90 ดอลลาร์ตาม FactSet ในขณะที่รายรับโดยรวมของ Meta อยู่ที่ 27.7 พันล้านดอลลาร์ เหนือกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 27.4 พันล้านดอลลาร์ เป็นแนวทางสำหรับรายรับไตรมาส 4 ระหว่าง 30 พันล้านดอลลาร์ถึง 32.5 พันล้านดอลลาร์ซึ่ง ณ จุดกึ่งกลางที่ 31.25 พันล้านดอลลาร์ นั้นต่ำกว่าที่ประมาณการโดยฉันทามติที่ 32.3 พันล้านดอลลาร์

ขณะที่เมื่อต้นสัปดาห์นี้ Bank of America ปรับลดอันดับหุ้นของ Meta ให้เป็นกลางจากการซื้อ และเสริมว่าการลงทุนมหาศาลของ Meta ใน metaverse นั้นมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ "ส่วนที่เกิน" ของหุ้น โดยสังเกตว่านักวิเคราะห์ไม่น่าจะยกเลิกการใช้จ่าย metaverse จากกำไรต่อหุ้น (EPS) เพื่อวัตถุประสงค์ในการประเมินมูลค่า เนื่องจากผู้ใช้ขาดความคืบหน้าในด้านการแข่งขันใหม่ที่อาจเกิดขึ้นจาก Apple และ "ต้นทุนด้านความคิดในการใช้เงินทุนที่พุ่งสูงขึ้น"
กำลังโหลดความคิดเห็น