กลุ่มเทเลนอร์ ประกาศจัดตั้ง “เทเลนอร์เอเชีย” องค์กรธุรกิจอิสระในการบริหารงานในระดับภูมิภาค โดยมีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ มีอำนาจเต็มในการดูแลและรับผิดชอบการดำเนินงานของธุรกิจในประเทศไทย บังกลาเทศ มาเลเซีย และปากีสถาน
นายเยอเก้น โรสทริป EVP and Head of Telenor Asia เทเลนอร์ กรุ๊ป กล่าวว่า ทีมที่แข็งแกร่งของเราที่สำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์พร้อมจะสร้างมูลค่าให้ธุรกิจที่เราเข้าไปดำเนินงานและแสวงหาโอกาสในการสร้างพันธมิตรในระดับโครงสร้างใหม่ๆ รวมถึงการทำ IPO ที่มีศักยภาพในอนาคต
“รากฐานของการเติบโตอย่างต่อเนื่องของกลุ่มเทเลนอร์ในเอเชียคือการที่บริการของเราช่วยยกระดับชีวิตของผู้คนและส่งเสริมสังคมตลอดมา”
ขณะเดียวกัน จากผลการสำรวจที่จัดทำโดยกลุ่มเทเลนอร์จากผู้ใช้งาน 8,000 คนในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยผู้ตอบแบบสอบถาม 93% กล่าวว่า การเชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ตบนมือถือช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิต
ทั้งนี้ ตลาดในแต่ละประเทศจะมีทีมงานบริหารการลงทุน (Investment Management teams) เข้าไปดูแล ทีมเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นผู้จัดการสินทรัพย์ และเป็นตัวแทนดูแลผลประโยชน์ของเทเลนอร์ในฐานะกรรมการของแต่ละประเทศ
โดยทีมงานในสิงคโปร์จะเสริมความแข็งแกร่งด้วยความเชี่ยวชาญในด้านการเงิน การปฏิบัติการ การบริหารความเสี่ยง การกำกับดูแลกิจการ การบริหารงานบุคคล และการดำเนินงานที่ยึดมั่นหลักการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบ
ก่อนหน้านี้ ในปี พ.ศ.2564 เทเลนอร์ เอเชีย ได้ลงนามในข้อตกลงควบรวมกิจการในประเทศมาเลเซียและไทย การควบรวมกิจการนี้ใหญ่ที่สุดและใหญ่เป็นอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมื่อการควบรวมกิจการของทั้ง 2 แห่งเสร็จสิ้น การดำเนินธุรกิจของเทเลนอร์เอเชียจะประกอบด้วยบริษัทโทรคมนาคมชั้นนำที่มีขนาดใหญ่ในตลาดเอเชียถึง 3 แห่ง
เพื่อการดำเนินงานบรรลุเป้าหมายกระแสเงินสด (cash flow) 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี พ.ศ.2568 เทเลนอร์เอเชียจะให้ความสำคัญต่อการทำงานผนึกกำลังจากการควบรวมกิจการทั้ง 2 แห่งนี้ และสร้างโอกาสสูงสุดใน 3 ปัจจัยหลัก คือ
1.เพิ่มการใช้งานมือถือและการใช้ดาต้าในบังกลาเทศและปากีสถาน โดยมีผู้ใช้งานมากกว่า 150 ล้านรายใน 2 ประเทศนี้ที่ยังไม่มีอุปกรณ์มือถือ และ 50% ของฐานลูกค้าปัจจุบันสมัครใช้บริการเสียงเท่านั้น
2.ขยายตลาดกลุ่มผู้ประกอบการ B2B (Business to Business) ส่วนแบ่งรายได้ในปัจจุบันของเทเลนอร์เอเชียจากส่วนนี้อยู่ที่ประมาณ 5% โดยมีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยในช่วงเกิดโรคระบาดที่ผ่านมาภาพรวมของตลาดโทรคมนาคมในส่วนนี้ลดลง แต่รายได้ B2B ของเทเลนอร์เอเชียเพิ่มขึ้นประมาณ 10%
3.มุ่งสู่การเป็นมากกว่าเป็นผู้ให้บริการเชื่อมต่อมือถือ โดยจะเพิ่มบริการสำหรับลูกค้าในด้านต่างๆ มากขึ้น เช่น ประกันภัย ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และบริการเกมต่างๆ