Stripe เปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทย นำเสนอบริการโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน เพื่อมอบทางออกด้านการชำระเงินที่ซับซ้อนให้ธุรกิจไทยทุกขนาด โดยช่วยลดเวลาและทรัพยากรที่ต้องใช้ในการประมวลผลการชําระเงินเพื่อให้ธุรกิจต่างๆ สามารถมุ่งพัฒนาธุรกิจหลักของตนได้เต็มที่เมื่อขยายสู่ตลาดโลก ทั้งนี้ ธุรกิจไทยที่ใช้บริการของ Stripe สามารถรับการชำระเงินผ่านพร้อมเพย์ และเครือข่ายบัตรเครดิตรายใหญ่ เช่น วีซ่า และมาสเตอร์ การ์ด
นายธีร์ ฉายากุล ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย บริษัท Stripe ประเทศไทยกล่าวว่า ประเทศไทยมีเศรษฐกิจดิจิทัลที่โตเร็วที่สุดประเทศหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเปิดรับอย่างรวดเร็วในด้านเทคโนโลยีการชำระเงินทางดิจิทัลได้ช่วยให้หลายธุรกิจฝ่าฟันวิกฤตโควิด-19 ได้ และเป็นพื้นฐานขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี การโอนเงินผ่านระบบอินเทอร์เน็ตยังมีความยุ่งยากและขาดประสิทธิภาพ ซึ่ง Stripe ต้องการกำจัดอุปสรรคนี้โดยการให้บริการโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินเพื่อช่วยให้ธุรกิจที่มีความมุ่งมั่น เพิ่มรายได้ให้เติบโตมากยิ่งขึ้น และได้ใช้ระบบอัตโนมัติกับงานที่สร้างมูลค่าต่ำของธุรกิจ พร้อมช่วยในการขยายธุรกิจไปสู่ตลาดโลกโดยการบริหารจัดการที่สะดวกสบายผ่านแดชบอร์ดเดียวของ Stripe
"ทุกธุรกิจในประเทศไทยสามารถใช้งานโซลูชันที่มีประสิทธิภาพนี้ของ Stripe เช่น ระบบ Billing ที่ครอบคลุมการออกใบเสร็จเรียกเก็บค่าสินค้าและบริการ และการชำระเงินตามรอบ ระบบ Checkout สำหรับหน้าการชำระเงินแบบสำเร็จรูป และระบบ Payment Links สำหรับการออกลิงก์เพื่อชำระเงินสำหรับอีคอมเมิร์ซ ระบบ Invoicing สำหรับการออกใบแจ้งหนี้เพื่อการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ และการกระทบยอดธุรกรรมแบบอัตโนมัติ ระบบ Radar สำหรับตรวจจับและป้องกันการทุจริต ระบบ Connect สำหรับแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ และมาร์เก็ตเพลส และอื่นๆ"
ทั้งนี้ ปัจจุบันหลังจากเปิดให้บริการในประเทศไทยมาประมาณ 2 เดือน มีผู้สมัครเข้าใช้บริการแล้วมากกว่า 1,000 ราย โดยระยะต่อไปในการพัฒนาบริการต่างๆ Stripe จะเน้นที่ความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก เพื่อให้สามารถตอบสนอง Pain Point รวมถึงความร่วมมือกับพันธมิตรเพิ่มขึ้นตามความเหมาะสม เพื่อช่วยผลักดันธุรกิจของลูกค้าให้เติบโตอย่างยั่งยืนเป็นหลัก
โดยธุรกิจหลายพันแห่งในประเทศไทยได้สมัครใช้บริการของ Stripe เช่น แพลตฟอร์มตลาดอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์ Baania แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับหรู Chanintr โครงการรีสอร์ตพักตากอากาศ Coconut Beach Bungalows แพลตฟอร์มโปรแกรมบัญชี FlowAccount และแพลตฟอร์มออกแบบคาแร็กเตอร์ Storior โดยที่ Stripe ได้ร่วมงานกับผู้ใช้บริการเหล่านี้ในระยะเริ่มต้นของธุรกิจในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาในระบบเบต้า เพื่อรวบรวมความคิดเห็นของลูกค้าและพัฒนาโซลูชันเพื่อตอบโจทย์ที่ธุรกิจไทยต้องการ
ทั้งนี้ การเข้าใช้แพลตฟอร์มของ Stripe จะมีค่าบริการการใช้แพลตฟอร์มต่อสัปดาห์ ดังนี้ อัตรา 850 บาท ต่อ 3 แพลตฟอร์ม อัตรา 1,200 บาทต่อ 5 แพลตฟอร์ม และอัตรา 2,000 บาท เต็มรูปแบบ
"เราไม่ได้เจาะจงไปที่ไซส์ หรือเซ็กเตอร์ของลูกค้า แต่จะเน้นไปที่สิ่งที่เขาต้องการมากกว่า เพื่อที่นำสิ่งเหล่านั้นไปพัฒนาให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เกิดความสะดวก และช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าเติบโตขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่ในประเทศไทย แต่เป็นระดับโลก เพราะเรามีระบบที่รองรับการชำระเงินได้กว่า 100 สกุล และยังจะเพิ่มการบริการต่างๆ เพิ่มขึ้นอีกในอนาคต"
น.ส.สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงการเปิดตัวของ Stripe ในประเทศไทยว่า ธปท. สนับสนุนให้มีบริการด้านการชำระเงินดิจิทัลที่หลากหลาย มีความสะดวก ปลอดภัย และตรงกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงบริการด้านการชำระเงินได้อย่างทั่วถึง การที่ Stripe เข้ามาเปิดบริการในประเทศไทยจะช่วยพัฒนานวัตกรรมและการเข้าถึงบริการชำระเงินของประชาชนและธุรกิจได้อย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ การเปิดตัวในประเทศไทยถือเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจในการให้บริการและการขยายธุรกิจของ Stripe ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ซึ่งบริการของ Stripe ครอบคลุมถึงออสเตรเลีย ฮ่องกง ญี่ปุ่น มาเลเซีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และประเทศไทย โดยปัจจุบัน Stripe ให้บริการใน 50 ประเทศทั่วโลก ธุรกิจหลายล้านรายทั่วโลก ตั้งแต่สตาร์ทอัปไปจนถึงแบรนด์ระดับโลกอย่าง Amazon, Ford และ Shopify ต่างให้ความไว้วางใจในบริการระดับโลกของ Stripe ให้ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้ และชุดเทคโนโลยีที่ครอบคลุมซึ่งช่วยสนับสนุนโมเดลธุรกิจที่มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา
บริการของ Stripe
● ระบบการรับชำระเงินจากลูกค้านานาชาติมากกว่า 135 สกุลเงิน และนำเสนอ API ที่เป็นหนึ่งเดียวสำหรับการใช้งานกับพร้อมเพย์ บัตรเครดิต และอื่นๆ สามารถติดตั้งระบบที่ง่ายดายและพร้อมให้ผู้ค้าใช้งานได้ภายในไม่กี่นาที
● การสร้างโมเดลธุรกิจ เช่น มาร์เก็ตเพลส การระดมทุน Crowdfunding และการชำระเงินตามรอบบิล ตลอดจนบริหารบัญชีและประสบการณ์ของลูกค้าต่อการซื้อสินค้าและบริการผ่านโทรศัพท์มือถือ ผ่านแดชบอร์ดหนึ่งเดียว นอกเหนือจากนี้ Stripe สามารถเชื่อมโยงกับปลั๊กอินจากผู้ให้บริการอื่นอีกหลายร้อยราย ที่เพิ่มความสามารถบริการตั้งแต่การจัดการใบแจ้งหนี้ ไปจนถึงการจัดการอีเมลเพื่อการตลาด และการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า
● ป้องกันการทุจริต Stripe Radar ซึ่งเป็นเครื่องมือตรวจจับและป้องกันการทุจริตใช้ประโยชน์จากอัลกอริทึมและแมชชีนเลิร์นนิงที่ทันสมัยเพื่อปกป้องธุรกิจจากการทุจริตอย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องมือนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งกับธุรกิจที่มีการดำเนินกิจการในตลาดทั่วโลก เนื่องจากรูปแบบและความเสี่ยงของการทุจริตในแต่ละประเทศแตกต่างกันอย่างมาก
● ช่วยให้ธุรกิจดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โซลูชัน SaaS (SaaS solutions) ของ Stripe ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สร้างระบบหลังบ้านที่ทันสมัย ปรับปรุงกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน และช่วยให้ทีมงานมีเวลาสำหรับงานอื่นที่เร่งด่วน
● เชื่อมโยงแพลตฟอร์มชำระเงิน Stripe Connect มอบบริการที่รวยเร็วและง่ายดายที่สุดในการเชื่อมโยงการชำระเงินกับแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์และมาร์เก็ตเพลสใดก็ตาม API ที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ และเครื่องมือของ Stripe ช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างและพัฒนาระบบซื้อขายและชำระเงินค่าสินค้าและบริการ ทั้งในระดับธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้น จนถึงการชำระเงินในตลาดโลก โดยที่ Stripe รวบรวมข้อมูลธนาคารและการยืนยันตัวตนเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนด KYC