xs
xsm
sm
md
lg

“WeWork” เผยเทรนด์ทำงานไฮบริดยังแรง หนุนกระแส Co-Working Space ไทยฟื้นตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


บัลเดอร์ ทอล
WeWork ประเทศไทย เผยยอดผู้ใช้บริการ 4 สาขาเติบโตกว่า 15% หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย รูปแบบการทำงานกลับสู่โหมดทำงานแบบผสมผสานทำงานออฟฟิศสลับทำงานที่บ้าน พร้อมส่ง 3 บริการคอนเซ็ปต์ใหม่ ออกแบบพื้นที่ทำงานเฉพาะคุณ All Access รายเดือนใช้บริการได้ทุกที่ On Demand จ่ายจริงตามการใช้งาน” เอาใจองค์กรธุรกิจและคนทำงาน

นายบัลเดอร์ ทอล ผู้จัดการทั่วไปประจำ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และออสเตรเลีย WeWork ประเทศไทย กล่าวถึงเทรนด์การทำงานของคนรุ่นใหม่และความต้องการพื้นที่ทำงานหลังภาวะโควิด-19 ในประเทศไทยว่า เทรนด์การทำงานหลังการคลี่คลายของสถานการณ์โควิด-19 ในสหรัฐอเมริกาและ อังกฤษ แนวโน้มการกลับมาทำงานในออฟฟิศลดลง แต่จะเปลี่ยนรูปแบบการทำงานแบบผสมผสานจากที่บ้านและออฟฟิศ (ไฮบริด) แทน โดยมีเพียง 5% เท่านั้นที่กลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศเป็นหลัก ส่วนประเทศไทยนั้นความต้องการกลับมาทำงานในออฟฟิศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับเทรนด์การทำงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยปัจจุบันมีพนักงานกลับมาทำงานในออฟฟิศกว่า 40% โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนรุนใหม่ ขณะที่กลุ่มผู้มีอายุงานมากแล้วจะนิยมทำงานแบบ Hybrid Workplace หรือทำงานแบบผสมผสาน

ทั้งนี้ เทรนด์การทำงานดังกล่าวส่งผลให้ในช่วงที่ผ่านมา Co-Working Space กลายเป็นกระแสกลับมาอีกครั้ง เนื่องจากนโยบายการทำงานของธุรกิจต่างที่สนับสนุนให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน Work Form Home หรือทำงานนอกสถานที่มากกว่าการทำงานในออฟฟิศ ซึ่งมีผลให้ความต้องการใช้พื้นที่ออฟฟิศเช่าลดลงไปบ้าง ซึ่งปัจจุบันเริ่มกลับมาอยู่ในจุดที่ใกล้เคียงกับก่อนหน้าที่จะเกิดโควิด-19 และธุรกิจเริ่มมองหาพื้นที่การทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้น

ปัจจุบัน WeWork เปิดให้บริการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในสิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และเวียดนาม ส่วนในไทย มีพื้นที่ให้บริการในกรุงเทพฯ 4 สาขาคือ ทีวัน บิวดิ้ง เอเชีย เซ็นเตอร์ สปริง ทาวเวอร์ และ เดอะพาร์ค รองรับผู้ใช้บริการที่เป็นองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีพนักงานขนาด 500 คน โดยที่ 1 ใน 3 นั้นเป็นองค์กรต่างชาติ ส่วนที่เหลือเป็นธุรกิจในไทย

“แนวโน้มการทำงานของออฟฟิศต่างๆ ในไทย ซึ่งเพิ่มวันทำการมากขึ้นมากขึ้น 38% ในการทำงานเต็มเวลา และอีกส่วนเป็นการทำงานแบบผสมผสาน (Hybrid Workplace) โดยทำงานที่บ้าน 3 วัน และ ออฟฟิศอีก 2 วัน ซึ่งทำให้การใช้บริการในพื้นที่อาคารสำนักงานปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 15% ต่อเดือนใน 4 สาขาที่เปิดให้บริการ”

นอกจากภาพรวมของความต้องการใช้พื้นที่สำนักงานเพิ่มขึ้นแล้ว อีกปัจจัยสำคัญมาจาก ความโดดเด่นด้านบริการของ WeWork สามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว ตอบโจทย์การทำงานขององค์กรธุรกิจ และการออกแบบพื้นที่ทำงานให้มีบรรยากาศที่ส่งเสริมการทำงาน ช่วยเสริมให้พนักงานทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ WeWork ได้พัฒนาบริการใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรธุรกิจมากขึ้นใน 3 บริการหลัก ได้แก่ การให้บริการรูปแบบสมาชิกรายเดือนที่เข้าใจงานได้ทุกสาขา (All Access) บริการจ่ายค่าบริการตามจริง (On Demand) ซึ่งบริการนี้เตรียมเปิดให้บริการในปี 2566 และบริการสมาชิกแบบเสมือนจริง ซึ่งทั้ง 3 รูปแบบเป็นการปรับเพื่อเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าในการเลือกใช้บริการที่ตรงกับการใช้งาน

พร้อมกันนี้ WeWork ได้เปิดตัวแพลตฟอร์ม Wework Workplace ที่ช่วยจัดองค์กรธุรกิจบริหารจัดการกรรมสิทธิ์ในสถานที่ทำงาน เพื่อให้เจ้าของพื้นที่และสมาชิกมีความคล่องตัวมากขึ้น โดยใช้เวลาเพียง 8 สัปดาห์ในการปรับพื้นที่ให้ตรงกับความต้องการใช้งาน ซึ่งเป็นการทำงานที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อเทียบกับระยะเวลาการทำงาน 18 เดือนในช่วงก่อนโควิด-19 รวมทั้งการปรับการเช่าจากเดิมเป็นรายปีมาเป็นระยะยาว 20 เดือน ซึ่งเป็นการปรับการให้บริการที่สอดรับกับความต้องการขององค์กรมากยิ่งขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น