หุ้นไทยปิดตลาดปรับตัวลดลง -9.52 จุด โบรกฯ ชี้ดัชนีร่วงลงตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค หลังอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงอีกครั้ง สวนทางผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ หรือ Bond yield ระยะ 10 ปี ที่พุ่งสวนขึ้น ทำให้มีเป็นแรงกดดันต่อดัชนี นักลงทุนจึงเทขายลดเสี่ยงจากวันหยุดต่อเนื่องหลายวันในสัปดาห์หน้า พร้อมประเมินกรอบดัชนีที่แนวต้าน 1,590-1,600 จุด และแนวรับที่ 1,565-1,575 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 7 ต.ค.2565 ปรับตัวลดลง -9.52 จุด หรือ -0.60% โดยปิดตลาดที่ 1,579.66 จุด มูลค่าการซื้อขาย 50,536.42 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ ดัชนีปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นภูมิภาค โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,592.12 จุด ขณะเดียวกันปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,572.52 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 427 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 526 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 1,211 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -3,087.21 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า-6.48 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +2,725.70 ล้านบาท และบัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +367.99 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 3,351.12 ล้านบาท ปิดที่ 658.00 บาท ลดลง 42.00 บาท
2.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,060.64 ล้านบาท ปิดที่ 170.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
3.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,020,78 ล้านบาท ปิดที่ 34.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
4.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,375.55 ล้านบาท ปิดที่ 12.30 บาท ลดลง 0.40 บาท
5.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,166.78 ล้านบาท ปิดที่ 29.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.CENTEL ปิดที่ 50.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 2.02%
2.AOT ปิดที่ 73.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 0.69%
3.EA ปิดที่ 88.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50บาท หรือ 0.57%
4.KBANK ปิดที่143.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 0.35%
5.AEONTS ปิดที่ 168.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 0.30%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCC ปิดที่ 318.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 0.93%
2.SCGP ปิดที่ 52.50บาท ลดลง-1.75 บาท หรือ 3.23%
3.JMT ปิดที่ 62.00 บาท ลดลง1.75 บาท หรือ 2.75%
4.TQM ปิดที่ 35.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 4.05%
5.HANA ปิดที่ 37.75บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 3.82%
ส่วนดัชนี SET100 ปิดที่ 2,136.06 จุด ลดลง -8.18 จุด หรือ -0.38% ด้านดัชนี SET50 ปิดที่ 946.51 จุด ลดลง -3.66 จุด หรือ -0.39% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 641.84 จุด ลดลง -5.60 จุด หรือ -0.86%
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคที่ปรับตัวลงตามกันหลังค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าอีกครั้ง ประกอบกับผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ (Bond yield) 10 ปี กลับมาขยับขึ้น ทำให้มีเป็นแรงกดดันต่อตลาดหุ้น
ขณะเดียวกัน ยังมีแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน สินค้าโภคภัณฑ์ ค้าปลีก และไฟแนนซ์ออกมา รวมถึงหุ้น DELTA ที่ปรับตัวลงค่อนข้างมาก ส่งผลกดดันต่อดัชนีในวันนี้ และมองว่านักลงทุนมีการขายลดพอร์ตออกมา เพราะในสัปดาห์หน้าตลาดหุ้นไทยจะมีวันหยุดยาว และในคืนนี้ติดตามการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร
ส่วนสัปดาห์หน้า คาดตลาดหุ้นไทยแกว่งไซด์เวย์ ซึ่งคาดว่านักลงทุนอาจจะชะลอการลงทุนในช่วงที่ใกล้วันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทย รวมถึงรอติดตามการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ โดยให้แนวต้านที่ 1,590-1,600 จุด และแนวรับที่ 1,565-1,575 จุด