xs
xsm
sm
md
lg

Bond Yield ปรับลง-ดอลลาร์อ่อน หนุนหุ้นไทยพุ่งปิด +19.95 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดตลาด +19.95 จุด โบรกฯ ชี้หุ้นไทยฟื้นตัวหลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลง อีกทั้งดอลล่าร์อ่อนค่าลง จึงเกิดแรงซื้อกลับคืนมาในหุ้นไทย แนะจับตาเฟดยังส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง อาจขายปรับพอร์ตลดเสี่ยงเนื่องจากตลาดยังมีความไม่แน่นอนค่อนข้างมาก พร้อมประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้ มองแนวต้านที่ 1,580 และ 1,592 และ 1,600 จุด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,565 และ 1,560 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 4 ตุลาคม 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +19.95 จุด หรือ +1.28% โดยปิดที่ 1,578.00 จุด มูลค่าการซื้อขาย 64,004.73 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ดัชนีปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงตลอดทั้งวัน โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,584.57 จุด ขณะเดียวกันก็ลดลงต่ำสุดที่ 1,567.48 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 984 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 535 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 570 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +2,059.94 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +39.99 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -1,313.93 ล้านบาท และ บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -786 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 4,301.63 ล้านบาท ปิดที่ 668.00 บาท เพิ่มขึ้น 48.00 บาท
2.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,537.22 ล้านบาท ปิดที่ 54.00 บาท ลดลง 0.25 บาท
3.AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,268.52 ล้านบาท ปิดที่ 72.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
4.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,999.17 ล้านบาท ปิดที่ 165.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
5.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,766.27 ล้านบาท ปิดที่ 34.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 229.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท หรือ 3.15%
2.SINGER ปิดที่ 39.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 6.71%
3.JMARTปิดที่46.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 5.68%
4.CENTEL ปิดที่ 49.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 5.35%
5.BBL ปิดที่ 135.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 1.89%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.GCO ปิดที่ 161.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 1.23%
2.TIPHปิดที่ 53.50 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 1.83%
3.AEONTS ปิดที่ 160.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.62%
4.PSL ปิดที่ 13.80 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ 2.13%
5.BGRIMปิดที่ 32.50 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ0.76%

ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,132.66 จุด เพิ่มขึ้น 22.15 จุด หรือ 1.05% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 946.89 จุด เพิ่มขึ้น 9.34 จุด หรือ 1.00% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 647.60 จุด เพิ่มขึ้น 6.88 จุด หรือ 1.07%

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวด์ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Bond Yield) ปรับตัวลง ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ส่งผลให้มีแรงซื้อหุ้นกลับ โดยเฉพาะในตลาดเอเชีย อักทั้งอาจจะมาจากหุ้นไทยปรับตัวลงเร็วแรงทำให้วันนี้ขึ้นมาได้แรง นอกจากนี้ ยังได้อานิสงส์แรงซื้อเก็งงบฯช่วงใกล้ประกาศงบบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ทำให้หุ้นไทยมีแรงส่งตามไปด้วย

นอกจากนี้คาดว่าตลาดคงยังไปไหนได้ไม่ไกล เพราะธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง โดย Key หลักต้องติดตามการประกาศเงินเฟ้อสหรัฐในวันที่ 13 ต.ค.นี้ ฉะนั้นหากไม่มั่นใจก็ให้ขายออกมาก่อน เนื่องจากตลาดยังมีความไม่แน่นอนค่อนข้างมาก ส่วนกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้มองแนวต้านที่ 1,580 และ 1,592 และ 1,600 จุด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,565 และ 1,560 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น