สมาคมอาคารชุดไทย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร จับมือผู้ประกอบการกว่า 200 ราย ตรึงราคาโครงการอสังหาฯ กว่า 1,000 รายการ สวนกระแสดอกเบี้ยและเงินเฟ้อขาขึ้น จุดความหวังคนอยากมีบ้านให้มีโอกาสชอปอย่างสบายใจ ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 42 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่าง 27-30 ต.ค.65
นายชัยรัตน์ ธรรมพีร ประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 42 เปิดเผยว่า งานครั้งนี้คือการกลับมาจัดในรูปแบบปกติอีกครั้ง ซึ่งสามสมาคมผู้จัดงานยังได้รับความร่วมมืออย่างดีจากดีเวลลอปเปอร์ สถาบันการเงิน และเอเยนซี รวมถึงแบรนด์สินค้าอสังหาฯ และก่อสร้าง มากกว่า 200 รายเข้าร่วม ที่สำคัญงานนี้ยังคงเป็นงานแสดงสินค้าที่อยู่อาศัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ มีจำนวนโครงการกว่า 1,000 รายการ การจัดงานครั้งนี้ ยังเป็นการรวมพลังของเหล่าดีเวลลอปเปอร์ในการตรึงราคาสินค้า สวนกระแสขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อในปัจจุบัน เพื่อให้คนอยากมีบ้านได้มีโอกาสทองเลือกชอปบ้านในฝันในราคาที่ถูกใจก่อนจะต้องปรับราคาใหม่ต้นปีหน้า
“คาดว่างานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งนี้จะมีผู้มาร่วมงานอยู่ที่ราวเกือบ 1 แสนคน ตลอดงาน 4 วัน มียอดจองและขายทั้งภายในงานและต่อเนื่องหลังงานรวมกว่า 50,000 ล้านบาท”
นายชัยรัตน์ กล่าวถึงปัจจัยที่จะทำให้งานครั้งนี้ประสบความสำเร็จว่า ตลาดอสังหาฯ ในปี 2565 แสดงสัญญาณการฟื้นตัวจากช่วงโควิด ไม่ว่าจะเป็นยอดขายคอนโดฯ ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ที่เติบโตมากขึ้นจากปีก่อน ปริมาณการโอนกรรมสิทธิ์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่เพิ่มขึ้น หรือจำนวนโครงการเปิดใหม่ของผู้ประกอบการที่มีแนวโน้มขยายตัวในช่วงครึ่งปีหลัง
นอกจากนี้ มหกรรมบ้านและคอนโดที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-30 ตุลาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ณ ฮอลล์ 5 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ยังอยู่ในช่วงผ่อนคลายมาตรการ LTV กู้ได้ 100% ทั้งบ้านใหม่และบ้านมือสอง ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดไว้ให้สิ้นสุดที่สิ้นปีนี้ เช่นเดียวกับมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองที่ได้รับการต่ออายุไปจนถึงสิ้นปี 2565 เช่นกัน รวมถึงต้นปี 2566 กรมธนารักษ์จะบังคับใช้บัญชีราคาประเมินที่ดินรอบใหม่ โดยภาพรวมทั้งประเทศราคาประเมินที่ดินแพงขึ้นเฉลี่ย 8%
อสังหาฯ ตรึงราคาประคองตลาดภาวะดอกเบี้ยขึ้น
นายมีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้ว่า อยู่ในช่วงขาขึ้นซึ่งอาจมีผลกระทบ แต่ปัจจัยดอกเบี้ยไม่ใช่เป็นประเด็นหลักต่อการตัดสินใจซื้อทั้งหมด เนื่องจากในช่วงโควิด เราพบเห็นว่าลูกค้าตอบรับสินค้าที่อยู่อาศัยระดับกลาง-บนค่อนข้างมาก ขายได้ดีขึ้น พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนไป มองหาคุณภาพในที่อยู่อาศัย
“ปัจจัยที่ทำให้ภาคอสังหาฯ เป็นภาวะที่น่าซื้อ คือ การจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งนี้ ผู้ประกอบการรวมพลังตรึงราคาขาย ตรงนี้มีพลังงานมากกว่าดอกเบี้ยปรับขึ้น ผมว่าเป็นช่วงที่ดี จังหวะในการมาซื้อที่อยู่อาศัย” นายมีศักดิ์ กล่าว
ตันทุนพุ่ง ตัวเร่งให้บ้าน-คอนโดฯ ปี 66 แพงขึ้น
นายวสันต์ เคียงศิริ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า แม้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยจะปรับขึ้นก็ตาม แต่เชื่อว่าภายในงานจะมีหลายสถาบันการเงินจัดโปรโมชันพิเศษในการปล่อยสินเชื่อให้ผู้ซื้อรายย่อย เนื่องจากทุกธนาคารต้องทำยอดปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าทั้งปี
“โครงการที่มาออกงานครั้งนี้เป็นต้นทุนเดิมในช่วงที่ผ่านมา แต่คาดว่าปี 2566 จะเป็นสินค้าที่อยู่อาศัยในราคาต้นทุนใหม่ ซึ่งประเด็นราคาเหล็กล้าสมัยไปแล้ว ตอนนี้ทรงๆ ตัว แต่ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 360 บาทต่อวัน ขึ้นมาร้อยละ 10 เศษ ปูนซีเมนต์ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันขึ้นมาแล้วร้อยละ 25 สินค้าวัสดุตกแต่งต่างๆ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 แต่ที่น่าหนักใจสุดๆ จะเป็นเรื่องของต้นทุนราคาที่ดินปรับขึ้นมาแล้วร้อยละ 20 ดังนั้น เมื่อรวมทั้งต้นทุนที่ดินและค่าแรงแล้ว เฉลี่ยต้นทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 10”
น้ำท่วม รถติด หนุนดีมานด์พลิกซื้อคอนโดฯ
นายพีระพงศ์ จรูญเอก นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า เรากำลังมองว่าตลาดคอนโดฯ กำลังจะกลับมาอีกครั้ง เนื่องจากปัญหาในเรื่องของน้ำท่วม การจราจรติดขัด ทำให้เริ่มมีการมองหาคอนโดฯ เพื่อความคล่องตัวในการเดินทาง ประกอบกับตลาดคอนโดฯ ปล่อยเช่ากลับมาคึกคัก โดยในพอร์ตของออริจิ้นฯ ตัวเลขการปล่อยเช่าปรับขึ้น 2 เท่า
“คอนโดฯ ได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว ประกอบกับ ภาวะเศรษฐกิจเริ่มพลิกฟื้น ซึ่งตนมีความเชื่อมั่นว่าคอนโดฯ ในปี 2566 จะกลับมาร้อนแรง”
