Financial Stability Oversight Council หรือ FSOC ซึ่งเป็นหน่วยงานในการกำกับดูแลเสถียรภาพการเงิน ของรัฐบาลกลางสหรัฐ ออกโรงแจ้งเตือนช่องโหว่ความเสี่ยงในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี หลังมีการนำไปใช้อย่างแพร่หลายในลักษณะกระจายอำนาจ หรือ decentralized แต่มีความผันผวนสูง ปลอดภัยต่ำ ความไม่สมดุลของสภาพคล่อง ซึ่งอาจต้องมีการกำกับดูแลและบังคับใช้กฏระเบียบเพิ่มเติม เพื่อให้มีเสถียรภาพและปลอดภัยขึ้น
FSOC ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นหลังเกิดวิกฤติการเงินปี 2551 ภายใต้รัฐบาลกลาง กระทรวงการคลังของสหรัฐ เพื่อช่วยบ่งชี้และบรรเทาภัยคุกคามต่อระบบการเงิน ได้ออกรายงานสำคัญฉบับแรกเกี่ยวกับคริปโต โดยได้แสดงถึงความกังวลเกี่ยวกับช่องโหว่ในตลาดคริปโต ที่มีความผันผวนรุนแรง ทั้งด้านราคาและความปลอดภัย และปริมาณความถี่เพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดปัญหาใหญ่ของตลาดคริปโต และทำให้เกิดการขาดทุนครั้งใหญ่ในตลาดคริปโต โดยเมื่อตลาดคริปโตมีการขยายตัวและมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเวลานี้ของปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่วิตกกังวลว่า การเก็งกำไรครั้งใหญ่และการกำกับดูแลกิจกรรมด้านสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่ครอบคลุมเพียงพอ ทำให้อาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศบล็อกเชนเป็นวงกว้างขึ้น และเรียกร้องให้มีการประเมินความเสี่ยง และความปลอดภัย ซึ่งแม้ว่าจะมีความพยายามเรียกร้องตั้งแต่นั้น แต่กลับไม่ได้รับการตอบรับที่ดีมากนัก ซึ่งทำให้ตลาดสูญเสียมูลค่าไปแล้วกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และความเสี่ยงก็ไม่ได้ลดน้อยลงในขณะนี้
ขณะเดียวกันโฆษกกระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า ความผันผวนในช่วงที่ผ่านมาได้เน้นย้ำให้เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องมีมาตรการเพิ่มเติม โดย FSCO ซึ่งรวมถึงผู้นำของธนาคารและหน่วยงานด้านการเงินทั้งหมดของสหรัฐได้เน้นย้ำว่า กฎหมายที่มีอยู่นั้นครอบคลุมกิจกรรมต่าง ๆ ในตลาดคริปโตแล้ว และรายงานยังได้เรียกร้องให้หน่วยงานทุกฝ่าย รวมถึงคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) และคณะกรรมาธิการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ (CFTC) ให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎเกณฑ์เกี่ยวกับคริปโต และแนะนำให้สภาคองเกรสจัดหาข้อมูลและทรัพยากรเพิ่มเติม ให้กับหน่วยงานกำกับดูแลคริปโตเพื่อนำไปวิเคราะห์ช่องโหว่ด้านต่างๆเพื่อหาทางแก้ไขอย่างรวดเร็วและรัดกุมที่สุดต่อไป