นักเขียนชื่อดัง โรเบิร์ต คิโยซากิ คาดต้นปีหน้าดอลลาร์ล่มตามปอนด์ หลังเฟดกลับลำนโยบาย แนะเก็บบิตคอยน์ ทองคำ และเงินระหว่างที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย
คิโยซากิ นักธุรกิจและผู้แต่ง “พ่อรวยสอนลูก” หนังสือขายดีที่ติดอันดับเบสต์เซลเลอร์ของหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์นานกว่า 6 ปีนับจากตีพิมพ์ในปี 1997 กลับมาอีกครั้งพร้อมคำแนะนำว่า ขณะนี้เป็นโอกาสทองในการซื้อบิตคอยน์ เงิน และทองคำ ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ และธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ หลังจากค่าเงินปอนด์ดำดิ่งเมื่อเทียบสกุลเงินอื่นๆ และธนาคารกลางอังกฤษต้องออกมาตรการฉุกเฉินด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรเพื่อให้ตลาดสงบลง วันเสาร์ (1) คิโยซากิโพสต์บนทวิตเตอร์ที่มีผู้ติดตาม 2.1 ล้านคนว่า “สัปดาห์นี้เงินปอนด์อังกฤษตายสนิท” ก่อนจะทวิตเพิ่มเติมว่า เขาเชื่อว่า ดอลลาร์จะล่มตามปอนด์อย่างเร็วที่สุดในเดือนมกราคม 2023 หลังจากเฟดเปลี่ยนนโยบาย
ต่อมาในวันอาทิตย์ (2) คิโยซากิทวิตย้ำว่า ขณะที่เฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย เป็นโอกาสเหมาะอย่างยิ่งในการกว้านซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ 3 ตัวที่บางครั้งถูกเรียกว่า “สินทรัพย์ปลอดภัย” ได้แก่ ทองคำ เงิน และบิตคอยน์ และสำทับว่า ช่วงเวลาที่ตลาดล่มคือจังหวะเหมาะที่สุดในการสร้างความรวย
เขาอธิบายว่า ถ้าเฟดยังคงขึ้นดอกเบี้ยไปเรื่อยๆ ดอลลาร์จะแข็งขึ้น ทำให้ราคาทองคำ เงิน และบิตคอยน์ร่วงลง และจังหวะนี้เองที่ควรซื้อเก็บไว้
“เพราะเมื่อเฟดกลับลำนโยบายและลดดอกเบี้ย คุณจะยิ้มกว้าง ขณะที่คนอื่นๆ น้ำตาร่วง”
นับตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม 2020 คิโยซากิออกหน้าสนับสนุนสินทรัพย์ที่เฟดไม่สามารถควบคุมได้โดยตรง และเคยเตือนนักลงทุนให้ “ซื้อบิตคอยน์และป้องกันตัวเอง” หลังจากเฟดพิมพ์แบงก์เพิ่มจำนวนมากเพื่อรับมือสถานการณ์เศรษฐกิจในช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนัก
นอกจากนั้นนี่ยังไม่ใช่ครั้งแรกที่คิโยซากิทำนายว่า ดอลลาร์สหรัฐฯ จะถึงกาลอวสาน เมื่อต้นปีนี้เขาเคยบอกว่า ดอลลาร์กำลังจะระเบิดเพราะถูกเฟดและกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ทำลาย
กระทั่งเมื่อเดือนที่แล้ว เขาประกาศว่า เงินปลอมกำลังจะจบเห่
ยิ่งไปกว่านั้น คิโยซากิเคยเตือนว่า การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดจะทำลายเศรษฐกิจสหรัฐฯ และแนะนำให้นักลงทุนลงทุนใน “เงินจริง” ก่อนสำทับว่า ควรเพิ่มบิตคอยน์ในพอร์ตการลงทุน รวมทั้งกระตุ้นให้นักลงทุนเริ่มซื้อคริปโตก่อนที่เศรษฐกิจจะล่มครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
ทั้งนี้ เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นทีละน้อยในช่วงปีที่ผ่านมา โดยปอนด์ ยูโร และเยนอ่อนลงเมื่อเทียบดอลลาร์ 18.24%, 15.54% และ 23.33% ตามลำดับ
ขณะเดียวกัน การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดและการแข็งค่าของดอลลาร์เกิดขึ้นขณะที่มูลค่าตลาดรวมของคริปโตร่วงลง 55% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
เดือนที่แล้ว ซีเค เจิ้ง ผู้ร่วมก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ZX Squared Capital คาดว่า เดือนนี้จะเป็นเดือนที่ผันผวนมากสำหรับบิตคอยน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์อัตราเงินเฟ้อ โดยจะมีการถกเถียงกันเรื่องเฟดและการเปลี่ยนแปลงนโยบาย และสิ่งที่เป็นห่วงกันก็คือ ถ้าเฟดใช้นโยบายคุมเข้มมากเกินไป เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจเข้าสู่ภาวะถดถอยรุนแรง