James Dimon CEO JPMorgan Chas ยังคงตอกย้ำมุมมองที่มีต่อคริปโต ว่าเป็นได้เพียงเครื่องมือของเครือข่ายแชร์ลูกโซ่กระจายศูนย์ หรือ (Decentralized Ponzi Schemes) เท่านั้น ซึ่งบิทคอยน์เป็นแค่เรื่องของการหลอกลวง และท้ายที่สุดแล้วก็จะต้องปิดฉากลงในอนาคตอันใกล้นี้
นายเจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ยังคงยืนยันมุมมองเชิงลบที่มีต่อคริปโทเคอร์เรนซีในระหว่างการแถลงต่อสภาคองเกรสสหรัฐในวันพุธ (21 ก.ย.) ที่ผ่านมา โดยเขากล่าวว่า “ผมเป็นคนที่มีมุมมองเป็นลบอย่างมากต่อบรรดาเหรียญคริปโทเคอร์เรนซี เช่น บิทคอยน์ แม้คุณเรียกว่าสกุลเงินก็ตาม ผมมองว่าเหรียญเหล่านี้ไม่ต่างอะไรจากเครือข่ายแชร์ลูกโซ่กระจายศูนย์ (Decentralized Ponzi Schemes) อย่างไรก็ตามในส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นกับสเตเบิลคอย์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ตรึงกับมูลค่าของดอลลาร์สหรัฐและสกุลเงินอื่น ๆ นั้นผมเชื่อว่าจะสามารถแก้ไขได้ หากมีการใช้กฎหมายและหลักเกณฑ์การกำกับดูแล ตลอดจนถึงข้อบังคับที่เหมาะสม” นายไดมอนกล่าวกับสภาคองเกรส
ทั้งนี้หากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้จะเห็นได้ว่า การแสดงความเห็นดังกล่าวของ นายเจมี ไดมอน ยังคงเป็นมุมมองเชิงลบต่ออุตสาหกรรมคริปโต ซึ่งที่ก่อนหน้านี้เขาเคยเรียกบิทคอยน์ว่าเป็น “สิ่งหลอกลวง” แม้ว่าเขาจะออกมากล่าวคำขอโทษในภายหลัง
อย่างไรก็ดี แม้ว่านายไดมอนจะวิพากษ์วิจารณ์ในมุมมองเชิงลบต่อบิทคอยน์มาโดยตลอด แต่จะเห็นได้ชัดว่า ในช่วงที่ผ่านมาธนาคารเจพีมอร์แกนได้เปิดกว้างต่ออุตสาหกรรมตริปโตมากขึ้น ด้วยการหันมาทยอยเปิดพื้นที่ด้านธุรกรรมให้กับสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมุ่งเน้นการใช้บล็อกเชนในการให้บริการด้านการเงิน นอกจากนี้ เจพีมอร์แกนยังเป็นธนาคารแห่งแรกในวอลล์สตรีที่เปิดตัวเมตาเวิร์สเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ในเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว นายไดมอนได้แสดงความเห็นในการประชุมของสถาบันการเงินระหว่างประเทศ หรือ IIF โดยเขากล่าวว่า “โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่า บิทคอยน์เป็นสิ่งไร้ค่า ผมไม่ต้องการเป็นกระบอกเสียงให้กับบิทคอยน์ และผมไม่สนใจที่ตัวเองคิดต่างจากคนอื่น”
การแสดงความเห็นดังกล่าวเป็นการตอกย้ำในจุดยืนมุมมองว่า นายไดมอนยังคงมีมุมมองตรงข้ามต่อบิทคอยน์ โดยก่อนหน้านี้ เขาเคยกล่าวในการประชุม “Delivering Alpha” ซึ่งจัดโดยสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า สกุลเงินบิทคอยน์เป็นเรื่องของการหลอกลวง ไม่ใช่เรื่องจริง และท้ายที่สุดแล้วก็จะต้องปิดฉากลงในอนาคตอันใกล้นี้