"พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น" เคาะราคาขายไอพีโอ 4.00 บาท/หุ้น กำหนดเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 10-12 ตุลาคม 2565 คาดเข้าเทรดใน SET เดือนตุลาคมนี้ ด้านธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ที่ปรึกษาทางการเงินและบล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย มั่นใจนักลงทุนให้การตอบรับดีเยี่ยม
น ส.วีรยา ศรีวัฒนะ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ.พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น หรือ PCC กล่าวว่า บริษัทฯ ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญให้ประชาชนทั่วไป (IPO) ในราคาหุ้นละ 4.00 บาท โดยจะเปิดให้จองซื้อหุ้นระหว่างวันที่ 10-12 ตุลาคม 2565 และคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้ในเดือนตุลาคมนี้ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า "PCC" ในกลุ่มอุตสาหกรรม ทรัพยากร พลังงานและสาธารณูปโภค
ทั้งนี้ จำนวนหุ้นที่เสนอขายไม่เกิน 307,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 25.03 ของจํานวนหุ้นสามัญที่ออกและชําระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ โดยมีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายอีก 5 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด บริษัท หลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด
"การกำหนดราคาไอพีโอในที่ระดับ 4.00 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E) ประมาณ 19.16 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิของบริษัทฯ ในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมและสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ซึ่ง PCC เป็นหุ้นพลังงานที่มีความน่าสนใจในการลงทุนเป็นอย่างมาก จากความสามารถในการแข่งขันและมีศักยภาพที่เติบโตต่อไปอีกมากในอนาคต รวมถึงผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ที่โดดเด่น มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมระบบไฟฟ้ามานานเกือบ 40 ปี" น.ส.วีรยา กล่าว
นายปาลธรรม เกษมทรัพย์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวาณิชธนกิจ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า จุดเด่นของ PCC คือการเป็นผู้นำในธุรกิจโซลูชันครบวงจรของ Smart Grid และมีสินค้าที่หลากหลาย ครอบคลุมตามต้องการของระบบจำหน่ายกระแสไฟฟ้า นอกจากนี้ PCC ยังมีการศึกษาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อใช้ในสินค้าและบริการ นำเสนอให้แก่ลูกค้า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด จึงทำให้มีผลิตภัณท์และระบบงานที่หลากหลายครอบคลุมในส่วนของธุรกิจ Smart Grid
"หุ้น PCC เป็นหุ้นพลังงานที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องและเป็นหุ้นตัวแรกของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่โฟกัสด้านระบบส่งและจำหน่าย และ Smart Grid ซึ่งระบบไฟฟ้าในอนาคตจะเปลี่ยนไปมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น มีรถ EV และ Charging Station รวมถึงการลงทุน Solar cell จากบ้านเรือนเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ระบบไฟฟ้าย่อมจะต้องมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ซึ่งสนับสนุนให้บริษัทฯ มีโอกาสที่จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง อีกทั้งในระยะยาวบริษัทฯ จะเติบโตไปพร้อมกับระบบไฟฟ้าที่จะพัฒนาเป็น Smart Grid ในอนาคต ซึ่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) มีแผนการลงทุนในเฉพาะส่วนของ Smart Grid ถึง 2 แสนล้านบาท” นายปาลธรรม กล่าว
นายกิตติ สัมฤทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (PCC) กล่าวว่า จำนวนเงินที่คาดว่าจะได้จากการระดมทุนครั้งนี้อยู่ที่ประมาณ 1,228 ล้านบาท ในเบื้องต้นมีวัตถุประสงค์การใช้เงินได้แก่ 1.เพื่อนำไปใช้เป็นเงินลงทุนในโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา และโครงการในอนาคตอื่น มูลค่า 350 ล้านบาท ภายในปี 2565-2567 2.เพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน มูลค่า 194 ล้านบาท ภายในปีนี้ และ 3.ชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงินมูลค่า 650 ล้านบาทภายในปีนี้
“บริษัทฯ มั่นใจว่า ภายหลังจากการระดมทุนในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯ มีศักยภาพในการทำธุรกิจให้มีการเติบโตมากขึ้น รวมทั้งมีความแข็งแกร่งด้านฐานะการเงิน และเป็นที่ยอมรับของคู่ค้าทั้งภาครัฐและเอกชน ขณะเดียวกันทำให้บริษัทฯ มีต้นทุนในการดำเนินธุรกิจที่ลดลง สนับสนุนความสามารถในการทำกำไรสูงขึ้น และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้นได้ในอนาคต" นายกิตติ กล่าว